รู้จักซามูเอล ลิตเติ้ล ฆาตกรต่อเนื่องกับคดีสะเทือนขวัญในสหรัฐฯ

ซามูเอล ลิตเติ้ล (Samuel Little) ถือเป็นหนึ่งในฆาตกรต่อเนื่องที่อันตรายและโหดร้ายที่สุดในประวัติศาสตร์สหรัฐอเมริกา โดยเขาถูกยืนยันจาก FBI ว่าเป็นฆาตกรที่มีเหยื่อมากที่สุดในบรรดาอาชญากรรมประเภทนี้ โดยลิตเติ้ลได้สารภาพว่าเขาได้ฆ่าผู้หญิงถึง 93 รายทั่วสหรัฐฯ ซึ่งส่วนใหญ่เป็นผู้หญิงผิวสีและกลุ่มผู้หญิงที่เปราะบาง เช่น พนักงานบริการทางเพศและผู้ที่เสพติดยาเสพติด ทั้งนี้พฤติกรรมของเขาและเหยื่อที่เลือกมักเป็นกลุ่มที่สังคมมักละเลย ทำให้คดีเหล่านี้ได้รับความสนใจในแง่มุมทางจิตวิทยาและกฎหมายอย่างลึกซึ้ง

ในฐานะอดีตนักมวย ลิตเติ้ลใช้ทักษะการชกของตนเองเป็นเครื่องมือในการก่ออาชญากรรม โดยเขาจะใช้หมัดของตนชกเหยื่อให้หมดสติ ก่อนที่จะรัดคอพวกเธอจนถึงตาย วิธีการนี้เป็นลักษณะเฉพาะของเขาที่ช่วยปิดบังร่องรอยของรุนแรงและทำให้ยากแก่การพิสูจน์ แม้ว่าการฆาตกรรมของเขาจะเป็นการกระทำที่ผิดกฎหมายอย่างร้ายแรง แต่เขามีอาการผิดปกติทางจิตอย่างชัดเจน ซึ่งบางครั้งทำให้เขาไม่สามารถควบคุมหรือแยกแยะความรับผิดชอบของตนเองได้เต็มที่

กระบวนการสอบสวนเผยว่า ซามูเอล ลิตเติ้ลมีภาวะผิดปกติทางจิตอย่างรุนแรง แม้เขาจะไม่ได้รับการวินิจฉัยในรายละเอียดอย่างเปิดเผยแต่คำสารภาพของเขาถูกพิจารณาว่าเป็นไปด้วยความแม่นยำ โดย FBI เชื่อว่ารายละเอียดที่เขาสารภาพเกี่ยวกับเหยื่อและวิธีการก่อเหตุเป็นจริงตรงตามหลักฐานหลายส่วน นอกจากนี้เขายังวาดภาพของเหยื่อเพื่อช่วยให้เจ้าหน้าที่สามารถระบุตัวตนเหยื่อรายอื่นได้เพิ่มขึ้น ซึ่งสะท้อนถึงความซับซ้อนของจิตใจและความหลากหลายของพฤติกรรมในฆาตกรต่อเนื่อง

คดีของซามูเอล ลิตเติ้ลเป็นกรณีศึกษาที่สำคัญในเชิงอาชญาวิทยาและกระบวนการยุติธรรม เนื่องจากเปิดเผยความท้าทายในการจัดการกับอาชญากรที่มีภาวะผิดปกติทางจิตอย่างหนัก ในหลายประเทศรวมถึงสหรัฐอเมริกา บุคคลที่มีความผิดปกติทางจิตชนิดรุนแรงและก่ออาชญากรรมมักจะมีการพิจารณาในมุมมองพิเศษทางกฎหมาย โดยอาจได้รับการตรวจสอบสุขภาพจิตแนวลึกเพื่อระบุว่ามีความสามารถที่จะรับผิดชอบต่อการกระทำผิดหรือไม่ รวมถึงการตัดสินใจว่าจะได้รับการลงโทษอย่างไร เพื่อไม่ให้เกิดความอยุติธรรมกับทั้งเหยื่อและผู้กระทำผิด

โดยปกติแล้ว บุคคลที่ศาลวินิจฉัยว่าเป็น "คนไร้ความสามารถ" หรือ "คนเสมือนไร้ความสามารถ" นั้น หมายถึงบุคคลที่มีอาการทางจิตผิดปกติขั้นรุนแรง ไม่สามารถควบคุมตนเองหรือรับผิดชอบต่อการกระทำได้ตามกฎหมาย เช่นเดียวกับซามูเอล ลิตเติ้ลที่บางส่วนอาจอยู่ในข่ายนี้ แม้จะเป็นฆาตกรต่อเนื่อง แต่ก็ต้องได้รับการพิจารณาโดยละเอียดถึงภาวะทางจิตและความสามารถในการตัดสินใจทางกฎหมาย โดยทั่วไปพวกเขามักจะถูกตั้งผู้พิทักษ์หรือผู้อนุบาลเพื่อจัดการเรื่องต่าง ๆ แทนตนเอง

สุดท้าย คดีของซามูเอล ลิตเติ้ลยังสะท้อนให้เห็นถึงปัญหาในระบบยุติธรรมและสังคมที่อาจละเลยกลุ่มคนเปราะบาง ซึ่งกลายเป็นเป้าหมายของอาชญากรที่มีพฤติกรรมโหดร้าย การป้องกันและแก้ไขปัญหาเหล่านี้จึงจำเป็นต้องมีการประสานงานทั้งในด้านกฎหมาย งานสังคมสงเคราะห์ รวมถึงการให้บริการดูแลด้านสุขภาพจิตที่เหมาะสม เพื่อไม่ให้เกิดความสูญเสียในอนาคตซ้ำรอยเรื่องราวโศกนาฏกรรมเช่นนี้อีกหนึ่งบทเรียนจากประวัติศาสตร์ที่ยังคงมีความสำคัญและต้องได้รับการแก้ไขอย่างจริงจังในทุกสังคม