ท้าทายอำนาจรัฐ! ดาว OnlyFans ชื่อดัง "บอนนี่ บลู" เหยียดหยามธงชาติอินโดนีเซีย ประชดหลังถูกเนรเทศ

กลายเป็นประเด็นร้อนแรงระดับประเทศ เมื่อ "บอนนี่ บลู" (Bonnie Blue) ดาราเอวีชื่อดังชาวอังกฤษ ผู้เคยสร้างชื่อจากแคมเปญหลับนอนกับชายกว่า 1,000 คน ได้ก่อเหตุอื้อฉาวครั้งใหม่ที่สร้างความโกรธแค้นให้กับชาวอินโดนีเซียอย่างรุนแรง หลังเธอถูกจับกุมและเนรเทศออกจากเกาะบาหลีเมื่อช่วงเดือนที่ผ่านมา

ย้อนกลับไปก่อนหน้านี้ บอนนี่ถูกเจ้าหน้าที่ตำรวจอินโดนีเซียจู่โจมจับกุมในสตูดิโอแห่งหนึ่งที่บาหลี พร้อมกับนักท่องเที่ยวชายอีกหลายคน ในข้อหาต้องสงสัยว่าผลิตสื่อลามกอนาจาร แม้ท้ายที่สุดเธอจะรอดพ้นข้อหาหนักเนื่องจากหลักฐานไม่เพียงพอ และถูกปรับเพียงเล็กน้อยฐานผิดกฎจราจร แต่เธอก็ถูกเนรเทศและสั่งห้ามเข้าประเทศอินโดนีเซีย

แทนที่จะสำนึกผิด บอนนี่กลับตอบโต้ด้วยวิธีที่รุนแรงกว่าเดิม เธอปรากฏตัวในคลิปวิดีโอล่าสุดบริเวณหน้าสถานเอกอัครราชทูตอินโดนีเซีย ณ กรุงลอนดอน พร้อมกลุ่มชายสวมโม่ง โดยเธอได้กล่าวท้าทายต่อหน้ากล้องว่า "ฉันถูกจับที่บาหลีเพราะทำแบบนี้ (ทำท่าทางส่อไปทางเพศ) ดังนั้นถึงเวลาแล้วที่ฉันจะมาที่สถานทูต เพื่อให้พวกเขาได้เห็นกับตาตัวเอง"

สิ่งที่ทำให้สถานการณ์บานปลายคือพฤติกรรมที่ถูกมองว่า "ลบหลู่เกียรติภูมิแห่งชาติ" อย่างรุนแรง เมื่อบอนนี่นำธงชาติอินโดนีเซียยัดเข้าไปในกางเกงยีนส์ของเธอแล้วลากไปกับพื้น พร้อมทั้งแสดงท่าทางสัญลักษณ์ทางเพศอย่างโจ่งแจ้ง นอกจากนี้ยังมีภาพหลุดที่ดูเหมือนว่าเธอจะร่วมเพศกับกลุ่มชายดังกล่าวที่บริเวณหน้าสถานทูตเพื่อเป็นการประชดประชันอีกด้วย

เธอกล่าวทิ้งท้ายอย่างเผ็ดร้อนว่า "ฉันมาที่นี่เพื่อจ่ายค่าปรับราคาถูกของพวกคุณ" พร้อมเปรียบเทียบว่าการกระทำของเธอในครั้งนี้ คือการแสดงความไม่เคารพต่อวัฒนธรรมอินโดนีเซียที่หนักหน่วงยิ่งกว่าสิ่งที่เธอเคยทำที่บาหลีเสียอีก

การกระทำดังกล่าวสร้างความไม่พอใจอย่างมหาศาลให้กับชาวเน็ตและรัฐบาลอินโดนีเซีย โดยต่างรุมประณามว่าพฤติกรรมของเธอเป็นเรื่องน่ารังเกียจและเป็นการดูหมิ่นศักดิ์ศรีของความเป็นชาติ

ล่าสุด นางอีวอนน์ เมเวงกัง (Yvonne Mewengkang) โฆษกกระทรวงการต่างประเทศอินโดนีเซีย แถลงว่าสถานทูตอินโดนีเซียในลอนดอนได้ยื่นเรื่องร้องเรียนอย่างเป็นทางการต่อหน่วยงานที่เกี่ยวข้องของอังกฤษ ทั้งกระทรวงการต่างประเทศและตำรวจ เพื่อให้ดำเนินคดีตามกฎหมาย โดยย้ำว่า "ธงสีแดง-ขาว คือสัญลักษณ์ของอธิปไตย เกียรติยศ และอัตลักษณ์ของชาติที่ทุกคนต้องให้ความเคารพ ไม่ว่าจะอยู่ที่ใดในโลกก็ตาม"

เหตุการณ์นี้ไม่เพียงแต่ตอกย้ำภาพลักษณ์ที่อื้อฉาวของบอนนี่ บลู แต่ยังกลายเป็นข้อพิพาทที่แสดงให้เห็นถึงความเปราะบางระหว่างเสรีภาพส่วนบุคคลและการเคารพในอธิปไตยของประเทศอื่นที่ทั่วโลกกำลังจับตามอง