สังหารหมู่ และเหตุการณ์ที่เจ็บปวดที่สุดของมนุษยชาติ (18+)
สังหารหมู่ เหตุการณ์ที่เจ็บปวดที่สุดของมนุษยชาติ (18+)
ยิว
เหตุการณ์ที่เป็นการละเมิดสิทธิมนุษยชน เกิดขึ้นมากมายบนดาวสีน้ำเงินดวงนี้ ซึ่งส่วนใหญ่ก็จะเกิดจากน้ำมือของเพื่อนมนุษย์ด้วยกันเอง ที่ไม่รู้จักค่าของความเป็นคน!! วันนี้ซึ่งที่เป็นฤกษ์งามยามดีที่จะรวบรวมเหตุการณี่เป็น “การละเมิดสิทธิมนุษยชนที่รุนแรง กรณีพรรคนาซีฆ่าล้างเผ่าพันธุ์ชาวยิว อันดับหนึ่ง เป็นเหตุการณที่รุนแรง และโหดร้ายที่สุดในประวัติศาสตร์ที่สร้างความสะเทือนใจไปทั่วโลกกับเหตุการณ์ “ Holocaust ” หรือการฆ่าล้างเผ่าพันธุ์ชาวยิว (กำลังเดินทางไปห้องรมเเก็ส) ประวัติศาสตร์ยุโรปโบราณมีปรากฎว่าชนชาติยิวคือ ชนหมู่น้อยชั้นต่ำระดับทาสแรงงาน ทำให้ถูกดูแคลนและกลั่นแกล้งเรื่อยมา แต่กระนั้นความเคร่งครัดศรัทธาที่มีต่อศาสนายิวได้กลายเป็นสิ่งเหนี่ยวรั้งชนชาติและเป็นโล่ต้านชะตากรรมอยู่เสมอ เมื่อยุโรปเข้าสู่ยุคคริสต์ศาสนาเรืองอำนาจ ชาวยิวในยุโรปกลับยิ่งถูกเกลียดชังมากยิ่งขึ้น ด้วยการถูกประนามว่า คนยิวคือผู้ทรยศ ยิวคือ "ผู้สังหารพระคริสต์" กระแสความเกลียดชังต่อต้านคนยิว [anti-Semitism] ไหลซึมผ่านกาลเวลามาตลอดประวัติศาสตร์ ซึ่งเป็นตัวสร้างกระแสการเกลียด “ ยิว” จนนำไปสู่การฆ่าล้างเผ่าพันธ์ชาวยิว ต่อมาจนมาถึงศตวรรษที่19ประเทศเยอรมนีหลังสงครามโลกครั้งที่หนึ่ง Adolph Hitler (1898-1945) ผู้นำพรรคนาซีเริ่มแผนรณรงค์ต่อต้านคนยิวอย่างเป็นระบบ เริ่มด้วยการนิยามคำว่า "คนยิว" ตามสายพันธุ์ อันเป็นการโหมโรงของกฎหมายและคำสั่งต่อต้านคนยิวโดยเฉพาะที่จะมีตามมาอีกนับไม่ถ้วน ในระหว่างสงครามโลกครั้งที่ 2 Adolph Hitler ได้เริ่มเคลื่อนย้ายชาวยิวไปแออัดรวมกันอยู่ในเขตที่เรียกว่า"ghetto" [เก็ตโต้] มีการสร้างกำแพงและล้อมรั้วลวดหนามแน่นหนา กลายเป็นเขตสลัมจากผลทางการเมืองที่มีสภาพแร้นแค้นอัตคัด ถูกจำกัดสิทธิ์ในทุกด้าน สินค้าที่ผ่านตลาดมืดเข้ามาในเขตกักกันมีราคาสูงลิบลิ่ว ต่อมาถูกเรียกว่า "death camp" หรือ "ค่ายมรณะ" เหล่านี้ เป็นค่ายที่ถูกสร้างขึ้นบนแผ่นดินประเทศโปแลนด์ในระหว่างถูกยึดครอง มีห้องที่ทำขึ้นพิเศษสำหรับรมแก๊สพิษเพื่อการสังหารโดยที่เหยื่อจะไม่ทราบล่วงหน้าเลย ทหารนาซีจะนำตัวผู้ถูกกักกันไปยังห้องที่มีลักษณะคล้ายห้องอาบน้ำรวม มีฝักบัวติดไว้ให้อาบ ทุกคนจะได้รับแจ้งว่ากำลังจะถูกทำการชำระล้างเพื่อฆ่าเชื้อโรค หลังจากเสียชีวิตจากแก๊สพิษหมดแล้ว ศพจึงถูกนำไปกองเผาในโรงเผาอีกทีหนี่ง คนยิวที่ยังเหลืออยู่ภายนอก มักจะมองปล่องควันไฟเหล่านี้ด้วยความสงสัยผสมกับความกลัวโดยที่ไม่ทราบถึงความตายที่กำลังรออยู่นี้เลย
นานกิง จีน |
The Rape of Nanking ล้างเผ่าพันธุ์นานกิง
อันดับสองตามมาด้วยเหตุการณ์โศกนาฎกรรม การทารุณ การฆ่า การข่มขืน ย่ำยีซึ่งศักดิ์ศรีความเป็นมนุษย์ที่ไม่สามารถจะลืมเลือนได้ นอกจากเหตุการณ์ ฆ่าล้าง เผ่าพันธุ์ ชาวยิว ของนาซี เยอรมัน ในยุโรปแล้ว การฆ่าล้างเผ่าพันธุ์ ชาวจีน ของกองทัพญี่ปุ่น ในช่วงเวลา เดียวกัน ก็ถือเป็น โศกนาฏกรรม ที่โลก ไม่มีวันลืมได้ เช่นกัน โดยที่ นานกิง เมืองเดียว มีประชากร ถูกสังหาร ไม่ต่ำกว่า 3 แสนคน ไม่นับ ผู้หญิง จำนวน ไม่น้อย ที่ถูกกระทำ ทารุณทางเพศ อย่างเ***้ยมโหด จนกลายเป็น ที่มาของ คำว่า "การชำเรานานกิง" ในเวลาต่อมา
|
ล้างเผ่าพันธุ์นานกิง |
ล้างเผ่าพันธุ์นานกิง2 |
ล้างเผ่าพันธุ์นานกิง ภาพที่ 3
|
พม่า
กรณีนางอองซานซูจี
อันดับสามมาพบกับเหตุการณ์ที่ไม่มีการเสียเลือดเสียเนื้อหรือฆ่าฟันกันแต่อย่างไร แต่เป็นตุการณ์ที่ผู้หญิงคนหนึ่งพยายามต่อสู้เพื่อประชาธิปไตยแต่กลับได้มาซึ่งการริดรอนสิทธิเสรีภาพของเธอ โดยการกักขังเธอให้ไร้ซึ่งอิสระภาพ
ช่วงประมาณ ค.ศ.1975) พม่าปกครองแบบเผด็จการทหาร นำโดยนายพลเนวิน เธอเขียนจดหมายเปิดผนึกถึงรัฐบาลเผด็จการทหารเมื่อปี พ.ศ.2531 เพื่อขอให้ตั้งกรรมการอิสระและจัดการเลือกตั้งทั่วไป การเรียกร้องครั้งนี้ไม่ทำให้รัฐบาลเผด็จการทหารของพม่ารู้สึกอะไรเลย เพียงแต่จัดตั้ง สภาฟื้นฟูกฎระเบียบแห่งรัฐ หรือ SLOC ขึ้น จากเหตุการณ์ครั้งนี้ทำให้อองซาน ซูจี โด่งดังไปทั่วโลก
หลังจากนั้นรัฐบาลได้จัดการเลือกตั้งทั่วไป ทำให้นักการเมืองจัดตั้งพรรคการเมืองขึ้นมามากมาย เวลาเดียวกันนั้น มารดาของซูจีป่วยหนัก เธอจึงต้องกลับพม่าเพื่อดูแลมารดาของเธอ และได้พบเห็นสภาพอันย่ำแย่ของประชาชนชาวพม่า ภายในการถูกกดขี่ของผู้นำ เธอจึงจัดตั้งพรรคสันนิบาตแห่งชาติเพื่อประชาธิปไตย ลงสมัครเลือกตั้ง โดยมีความคิดที่จะพัฒนาประเทศของเธอให้ดีขึ้น แต่เธอไม่ต้องการตำแหน่งประธานาธิบดี จึงให้นายพลทิน อู เป็นหัวหน้าพรรค ส่วนตัวเธอเองรับตำแหน่งเพียงเลขาธิการพรรคเท่านั้น
|
การสิ้นพระชนม์ของเจ้าหญิงไดอาน่า
ติดตามมาด้วยอันดับสี่กับเหตุการณ์ที่ทำให้คนอังกฤษแทบ shock กับข่าวการสิ้นพระชนของเจ้าหญิงไดอาน่า พระราชินีแห่งราชวงศ์อังกฤษที่ต้องประสบอุบัติเหตุรถชน อันเนื่องมาจากขับรถเพื่อหนีการติดตามนักข่าว ที่มุ่งจะทำข่าวเรื่องราวของพระองค์ เหตุการณ์นี้หากพิจารณาแล้วอาจจะไม่เกี่ยวกับการละเมิดสิธิมนุษยชนเพราะพระองค์ประสบอุบัติเหตุเอง แต่หากพิจารณาถึงสาเหตุหรือต้นตอแล้วจะเห็นว่าเกี่ยวอย่างแน่นอน ตลอดระยะเวลาที่พระองค์อภิเษกสมรสกับองค์เจ้าฟ้าชายชาร์ลส์ แห่งราชวงศ์อังกฤษนักข่าวก็เริ่มพุงประเด่นความสนใจ มาที่พระองค์ทำให้พระองค์ ไม่มีความเป็นส่วนตัว ต้องถูกนักข่าวประโคมข่าวเกี่ยวกับพระองคั้งเรื่องดีและเรื่องอื้อฉาวจนสร้างความไม่สบายพระทัย จนนี่สุดต้องหย่าองค์เจ้าฟ้าชายชาร์ลส์ พอหลังจากหย่าแล้วนักข่าวก็ยังไม่ยอมรามือยังคงเสนอข่าวเธอ กับ คนรักคนใหม่ที่นักข่าวอ้าง จนทำให้เธอต้องหนีนักข่าวเพราะทรงเบื่อหนายกับการนำเสนอข่าวของเธอจนในที่สุด พระองค์ได้ประสบอุบัติเหตุรถคว่ำจนสิ้นพระชนย์ |
การฆ่าล้างเผ่าพันธุ์ชนพื้นเมืองในรวันดา |
การฆ่าล้างเผ่าพันธุ์ชนพื้นเมืองในรวันดา อันดับที่ห้ากับการฆ่าล้างเผ่าพันธุ์กันอีก ซึ่งเป็นเหตุการณ์ทุ่กคนไม่อยากให้เกิดขึ้น แต่จะทำอย่างไรได้ในเมื่อคนเกิมามีหลายแบบหลายแนวความคิด ห้ามกันไม่ได้การละเมิดสิทธิมนุษยชชนจึงยังคงมีให้ได้กล่าวขวัญกันอยู่ |
เหตุการณ์ฆ่าล้างเผ่าพันธุ์ในรวันดาเริ่มจากในค่ำคืนของวันที่ 6 เมษายนปีนั้น ประธานาธิบดีของรวันด้าซึ่งเป็นชาวฮูตูถูกลอบสังหาร ภายในเวลาไม่กี่นาที การสังหารผู้คนเริ่มต้นขึ้น พวกหัวรุนแรงชาวฮูตูซึ่งได้แก่กลุ่มอินเตราฮัมเว (Interahamwe เป็นภาษากินยาร์วันดาแปลว่า "ผู้ที่สู้ด้วยกัน") และกลุ่มอิมปูซูมูกัมบิ (Impuzamugambi แปลว่า "ผู้ที่มีจุดมุ่งหมายเดียวกัน") โดยจะมี 2 กลุ่มนี้เป็นผู้กระทำการสังหารหมู่เสียเป็นส่วนใหญ่ ใช้การตายของประธานาธิบดีเป็นข้ออ้างเพื่อกำจัดพวกทุตซี่ ตลอดระยะเวลาเพียง 100 วัน มีคนโดนฆ่าตายไปถึง 800,000-1,071,000 คน ส่วนใหญ่ถูกตีจนตายด้วยเครื่องมือในฟาร์มโดยน้ำมือของคนชาติเดียวกัน!!! |
โปแลนด์
รูปการสังหารหมู่ทหารโปร์แลนด์ ที่ป่าการ์ตินใกล้เมือง Smolenks ของรัสเซีย ระหว่างสงครามโลกครั้งที่ 2 โดยในที่สุดรัฐบาลโซเวียตก้อออกมายอมรับว่าเป็นฝีมือของพวกเขา |
นี่คือภาพเหตุการณ์รวมทั้งหมดนะครับ


















Peasants of Leningrad. Cannibalism by famine