ผีนานาชาติ 18+
ตำนานของยุโรป
นักล่าแห่งพงไพร (The Wild Hunt) เป็นตำนานพื้นบ้านของยุโรปที่นักล่ามักจะเป็นบุคคลที่ตายแล้วหรือเทวดาที่สามารถติดต่อโลกแห่งความตายได้โดยจะปรากฏตัวเป็นกองทัพ
คนหัวขาดขี่ม้า หรือ "ปีศาจสับหัว" (The Headless Horseman) เป็นปีศาจที่มีอยู่ในตำนานพื้นบ้านในช่วงยุคกลางโดยจะเป็นบุรุษขี่ม้าสีดำและไม่มีหัว บางตำนานเล่าว่า มันจะไล่สังหารผู้คนโดยการตัดศีรษะ
สุภาพสตรีสีขาว (White Lady)เป็นผีชนิดหนึ่งในลักษณะของผู้หญิงซึ่งมีการพบเห็นทั่วไปในชนบท เกี่ยวข้องกับเรื่องราวโศกนาฏกรรมท้องถิ่น ปรากฏตัวในรูปลักษณ์เป็นสตรีตัวขาวโพลน และมีการรายงานถึงการพบเห็นทั่วโลก
สแกนดิเนเวีย
เจมส์ เฮปเบิร์น เอิร์ลที่ 4 แห่งบอทเวลล์ (James Hepburn, 4th Earl of Bothwell) แห่งปราสาทแดรกส์โฮล์ม ประเทศเดนมาร์ก เป็นพระสวามีองค์ที่สามในสมเด็จพระราชินีนาถแมรีที่ 1 แห่งสกอตแลนด์ ที่ซึ่งต่อมากลายเป็นคนวิกลจริตและเสียชีวิตในปราสาทแห่งนี้ ปัจจุบันมักมีคนเห็นเอิร์ลขี่ม้ารอบสนามและเต็มไปด้วยม้าและรถม้ามากมาย
สหราชอาณาจักร
มือกลองแห่งเทดเวิร์ท (Drummer of Tedworth) ซึ่งมักปรากฏที่เมืองเทดเวิร์ท มีการรายงานถึงเสียงกลองที่ดังมากและไม่ทราบที่มา รบกวนชาวบ้าน เป็นหนึ่งในโพลเทอร์ไกสท์
แมรีผู้กระหายเลือด (Bloody Mary)เป็นผีในตำนานที่มักจะเปิดเผยอนาคต ซึ่งผีตนนี้จะปรากฏตัวในกระจกเมื่อมีการขานชื่อเธอหลายครั้ง ปรากฏในรูปลักษณ์ของหญิงสาวที่เต็มไปด้วยเลือดและจะฉายภาพอนาคตแก่ผู้ขานชื่อเธอ
สุภาพสตรีสีน้ำตาลแห่งไรน์แฮมฮอลล์ (Brown Lady of Raynham Hall) มีการรายงานว่าเป็นผีของเลดี้โดโรธี วอลโพล น้องสาวของนายกรัฐมนตรีโรเบิร์ต วอลโพล เป็นผีที่โด่งดังที่สุดในอังกฤษ มักปรากฏตัวในชุดคลุมสีน้ำตาลซึ่งเป็นชุดที่เลดี้โดโรธีชอบใส่
ภาพนี้ถูกถ่ายในปี 1936 ที่หอประชุมชื่อ Raynham ตั้งอยู่ในเมือง Norfolk ประเทศอังกฤษ, โดยสองช่างภาพของนิตยสาร Country Life เป็นที่เล่าขานกันมานานแล้วว่า หอประชุมดังกล่าว มีผีของท่านผู้หญิง Dorothy Townshend ซึ่งเสียชีวิตไปตั้งแต่ปี 1726 สิงสู่อยู่ และก็มีรายงานผู้พบเห็นผีตนนี้อยู่นานหลายปีด้วยกัน จนกระทั่งสองช่างภาพ ได้ถ่ายรูปนี้ได้ขณะพบเจอผีตนนี้กำลังเดินลงบันได
Dorothy Townshend
ผีถนนแนนทัก (Nan Tuck's Ghost) เป็นเรื่องราวของคุณนายทักที่วางยาฆ่าสามีตนเองราวปี พ.ศ. 2353 เจ้าหน้าที่สามารถจับเธอได้ที่ถนนนี้แต่เธอวิ่งหนีหายไปในป่าและไม่มีใครพบเห็นเธออีกเลย มีคนเคยพบเห็นเธอยังคงอยู่ในบริเวณนี้
ผีแม่ชีแห่งกุฏิบอร์ลีย์ (Borley Rectory) ได้รับการขนานนามว่าเป็นสถานที่ที่สยองขวัญที่สุดในอังกฤษจากเหตุการณ์โพลเทอร์ไกสท์ และมีคนพบเห็นผีแม่ชีที่ตายไปวนเวียนอยู่ ต่อมากุฏิถูกไฟไหม้จนไม่เหลือซากอย่างไม่มีสาเหตุ
ปากีสถาน
พิคาล เพรี (Pichal Peri) ปีศาจตามความเชื่อของอินเดียและปากีสถาน รูปลักษณ์เป็นผีดูดเลือดในร่างค้างคาวหน้าตาน่าเกลียด ที่มีเท้าหักงอไปด้านหลัง
สหรัฐอเมริกา
แม่ชิไร้หัว (The Headless Nun) เป็นผีที่เชื่อว่าคอยหลอกหลอนผู้คนบริเวณเฟรนช์ฟอร์ตโคฟ ซึ่งปัจจุบันคือ เมืองมีรามิชี รัฐนิวบรันสวิก เป็นส่วนหนึ่งของประเทศแคนาดา ปรากฏตัวในรูปร่างแม่ชีแต่ไม่มีศีรษะ
มินนี เ...์ (Minnie Quay) เป็นผีที่ปรากฏตัวที่มิชิแกน เป็นเรื่องเล่าพื้นบ้านของเมืองป่าเล็ก ๆ ทางตะวันออกของมิชิแกน เป็นผีของหญิงสาวชื่อว่า มินนี เ...์ซึ่งผิดหวังกับความรักและกระโดดน้ำฆ่าตัวตาย วิญญาณของเธอยังคงวนเวียนอยู่
สุภาพสตรีสีแดงแห่งวิทยาลัยฮันทิงดอน (Red Lady of Huntingdon College) เป็นผีที่ถูกพบในหอพักนักศึกษาของวิทยาลัยฮันทิงดอน เมืองมอนต์กอเมอรี รัฐแอละแบมา ปรากฏตัวด้วยเสื้อผ้าสีแดงสดและถือร่มสีแดงเดินไปทั่วหอพัก
ปีศาจริดจ์เวย์ (Ridgeway Ghost) เป็นปีศาจหรือผีตามตำนานพื้นบ้านของรัฐวิสคอนซิน คอยหลอกหลอนผู้คนตลอดทาง 25 ไมล์ของถนนเหมืองแร่เก่า บางครั้งอาจไม่ใช่ผีหรือปีศาจเพราะมันสามารถเปลี่ยนแปลงรูปลักษณ์ได้ บางครั้งเป็นชายถือแส้เดินตามพวกเขาหรือไล่กวดพวกเขา, เป็นสัตว์บางชนิด เช่น สุนัข แกะ หรือสัตว์ตัวอื่น ๆ ในฟาร์ม และหลายครั้งปรากฏในร่างมนุษย์ รวมทั้งเป็น "คนหัวขาดขี่ม้า" หรือ หญิงสาว หรือ หญิงชรา
ผีกรีนเบรียร์ (Greenbrier Ghost) เป็นผีที่ปรากฏในเทศมณฑลกรีนไบรเออร์ รัฐเวสต์เวอร์จิเนีย เป็นผีของหญิงสาวชื่อว่า ซอนา เฮเอสเตอร์ ชู ซึ่งถูกฆาตกรรมในปีพ.ศ. 2440 ในการคลี่คลายคดีฆาตกรรม เธอได้รับการยอมรับหลักฐานโดยการใช้ "พยานของผี" และสามีของเธอได้ถูกจับในคดีฆาตกรรม
ลาโยโรนา (La Llorona) หรือ "นางร่ำไห้" เป็นผีในตำนานพื้นบ้านของลาตินอเมริกา ตำนานเล่าว่าเธอเป็นผู้หญิงที่สวยมากนามว่า มารีอา แต่เธอได้ฆาตกรรมลูก ๆ ของเธอเองโดยการจับถ่วงน้ำด้วยคำสั่งของชายที่เธอรัก แต่เมื่อชายคนนั้นปฏิเสธเธอ เธอจึงฆ่าตัวตาย เธอไม่สามารถไปสู่สุคติได้ต้องวนเวียนอยู่ชั่วกัลป์เพื่อตามหาร่างของลูก ๆ ที่ถูกเธอฆ่า เธอวนเวียนและร่ำไห้อย่างเวทนา บางตำนานกล่าวว่า เธอในร่างผีจะลักพาตัวเด็กเร่ร่อนและเด็กที่ไม่เชื่อฟังพ่อแม่ไปอยู่กับเธอด้วย
ญี่ปุ่น
ผีนับจาน หรือ "ซารายาชิกิ" (Banchō Sarayashiki, Okiku) โอคิคุแห่งปราสาทฮิเมจิ เป็นเรื่องเล่าของวิญญาณที่จะออกมาจากบ่อเก็บน้ำ และเริ่มนับจานตั้งแต่ 1 ใบจนถึง 9 ใบ แล้วจะร้องไห้อย่างหัวใจสลาย ซึ่งที่มาก่อนที่โอคิคุจะกลายเป็นผีนั้นมีหลายเรื่องเล่า บางเรื่องกล่าวว่าโอคิคุทำจานของเจ้านายแตก เจ้านายโมโหมากจึงฆ่าโอคิคุทิ้งแล้วเอาศพทิ้งลงบ่อน้ำ
สตรีหิมะ หรือ "ยุกิอนนะ" (Yuki-onna) เป็นชื่อที่ใช้เรียกภูตหิมะที่มีรูปร่างเป็นสตรีที่งดงาม ว่ากันว่าเป็นจิตวิญญาณแห่งฤดูหนาว ซึ่งยูกิอนนะนี้ จะมีลักษณะเป็นผู้หญิงสาวสวย สวมชุดกิโมโนสีขาวสะอาด นางจะปรากฏตัวบนภูเขาหิมะในวันที่มีพายุหิมะ และหลอกล่อให้ผู้ชายที่หลงใหลในความงามของนางไปสู่ความตาย
โอะนิ (Oni) ยักษ์ในตำนานของชินโต มันเป็นยักษ์สูงใหญ่ที่มีรูปร่างคล้ายมนุษย์ มี 3 ตา มี 2 เขา มีเขี้ยวและเล็บคมกริบ และในมือถือกระบองอันใหญ่เอาไว้ ว่ากันว่าโอะนิจะนำพามาซึ่งโรคร้าย โรคระบาด ความโชคร้าย และความหายนะ โอะนิเหาะเหินเดินในอากาศได้ และจะคอยจับเอาดวงวิญญาณของคนชั่วที่กำลังจะตาย
เป็นปีศาจที่คอยกินฝันร้ายของผู้คน (dream eater) เชื่อกันว่าบะกุนั้น มีรูปร่างคล้ายหมี และมีส่วนผสมของสัตว์หลายชนิด เช่น มีหน้าผากมีนอคล้ายแรด มีจมูกเป็นงวงคล้ายช้าง มีเท้าเหมือนเสือ มีหางเหมือนวัว ชาวญี่ปุ่นโบราณเชื่อว่า เมื่อมีฝันร้ายหรือลางร้าย ซึ่งสิ่งเหล่านี้เกิดจากการกระทำของปีศาจ ให้ท่องคาถาว่า "บะกุ คุระเอะ" ซึ่งแปลว่า "บะกุ จงมากินฝันร้ายของข้า" 3 ครั้ง บะกุจะมากินฝันร้ายนั้นให้ และกลับจากร้ายเป็นดี ปีศาจทั้งหลายจะถูกสูบลงไปในพื้นดินลึก
เท็งงุ (Tengu) เท็งงุ มีภาพลักษณ์ของปีศาจร้าย และมักจะสร้างพายุเข้าโจมตีผู้คนเสมอ ๆ ซึ่งประเทศญี่ปุ่นเป็นประเทศที่ถูกพายุถล่มบ่อยครั้ง เท็งงุเป็นข้ารับใช้ของไดเทนกุ ซึ่งมักปรากฏภาพของไดเทนกุ ที่ล้อมรอบไปด้วยเท็งงุ บางความเชื่อนั้นเชื่อว่าเท็งงุไม่ได้เป็นผีร้าย ทั้งยังเป็นปีศาจที่รักสงบและสุภาพ แต่การกระทำร้าย ๆ นั้น เป็นเพราะเท็งงุต้องทำตามคำสั่ง ของไดเทนกุ
โดะโดะเมะกิ หรือ "ปีศาจร้อยตา" (Dodomeki) เป็นปีศาจของญี่ปุ่น อาศัยอยู่บนร่างกายของมนุษ์ มีลักษณะเป็นดวงตาลามไปทั่วร่างกาย
คัปปะ (Kappa) เป็นผีญี่ปุ่นชนิดหนึ่ง จัดอยู่ในจำพวกพรายน้ำ มีรูปร่างหน้าตาคล้ายกบ ตัวสีเขียว แต่มีกระดองเต่าอยู่ข้างหลัง เท้ามีพังผืดทั้งเท้าหน้าและเท้าหลัง จมูกแหลม มีลักษณะศีรษะที่แบนและกลางกระหม่อมไม่มีผม มีปากแหลมเหมือนนก ผิวเป็นเมือกลื่น คัปปะมีนิสัยที่ขี้เล่นและอยากรู้อยากเห็น ซึ่งบางครั้งก็เป็นอันตรายกับมนุษย์ คัปปะเคยหลอกล่อให้คนลงไปในน้ำ มักจะลากม้า หรือเด็ก ๆ ลงแม่น้ำจนจมน้ำตาย
สาวปากฉีก หรือ "คุจิซะเกะอนนะ" (Kuchisake-onna) เป็นหญิงสาวในปกรณัมญี่ปุ่นซึ่งถูกสามีผู้หึงหวงทำร้ายจนเสียอวัยวะ และต่อมากลายเป็นผีร้าย มีการเล่ากันในพุทธทศวรรษที่ 2500 มีเด็กพบเห็นหญิงคนหนึ่ง หญิงนั้นจะหยุดเดินและถามเด็กว่า "ฉันสวยไหม" ถ้าเด็กบอกปัด หญิงนั้นจะล้วงกรรไกรออกมาตัดปากเด็กจนถึงแก่ความตาย ถ้าเด็กตอบรับ หญิงนั้นจะปลดหน้ากากอนามัยออก และยิ้มให้เด็กชมดู เผยให้เห็นปากที่ถูกแหวะจนถึงใบหูมีโลหิตท่วม แล้วถามเด็กนั้นอีกว่า "แล้วตอนนี้ฉันสวยไหม" ถ้าเด็กว่าไม่ หญิงนั้นจะล้วงกรรโกรมาตัดกายเด็กเป็นสองท่อน ถ้าว่าใช่ หญิงนั้นจะมอบความสวยงามให้แก่เด็กนั้นบ้างโดยเอากรรไกรตัดปากเด็กจนถึงใบหูเสีย
ผีไม่มีหน้า หรือ "นปเปะระโบ" (Noppera Bou) เป็นผีญี่ปุ่นอย่างหนึ่งที่ไม่มีใบหน้า มีแต่หน้าเกลี้ยง ๆ คล้ายไข่ ซึ่งแม้แต่ตา จมูก ปาก ไม่มีบนใบหน้าเลย ผีตนนี้มักเที่ยวหลอกหลอนคนผ่านทางในเวลากลางคืน
สาวคอยาว หรือ "โรคุโรคุบิ" (Rokurokubi) มนุษย์ที่ยังมีชีวิตอยู่แต่ต้องคำสาปหรืออาถรรพ์ เมื่อตกกลางคืนจะยืดคอออกไปได้ยาวมาก มักจะเป็นเฉพาะในผู้หญิง มีพฤติกรรมที่จะเป็นอันตรายต่อมนุษย์ สาวคอยาวจะดูดพลังของเหยื่อที่เป็นทั้งคนและสัตว์ และจะใช้ลิ้นเลียเพื่อดับไฟตะเกียง
คุณฮะนะโกะประจำห้องน้ำ (Toire no Hanako-san) เป็นตำนานพื้นบ้านญี่ปุ่นว่าด้วยเด็กหญิงคนหนึ่งซึ่งเกิดในสมัยสงครามโลกครั้งที่สองและสิงอยู่ตามห้องน้ำโรงเรียน ถ้าเรียกขานแล้วเธอจะปรากฏตัว
เทะเกะเทะเกะ (Teke Teke) ผีหญิงร้ายอีกตนในคติชนญี่ปุ่น เป็นเด็กนักเรียนหญิงซึ่งพลัดตกลงสู่ทางรถไฟ แล้วถูกรถไฟแล่นทับตัวขาดเป็นสองท่อน จะออกมาฆ่าคนผู้เคราะห์ร้ายโดยทำให้ร่างกายคนนั้นขาดสองท่อน
อะกะมันโตะ (Aka Manto) ชายรูปงามซึ่งอยู่ตามห้องน้ำสาธารณะ คอยถามคนนั่งส้วมว่า จะเอากระดาษสีแดงหรือกระดาษสีฟ้าดี ถ้าตอบแดง ชายนั้นกระโจนลงมาฟันคนตอบเป็นชิ้น ๆ กระทั่งร่างแดงฉานเพราะโลหิต ถ้าว่าฟ้า ชายนั้นจะบีบคอคนตอบจนกระทั่งหน้าเปลี่ยนเป็นสีฟ้าแล้วตายในที่สุด
โอบะเกะ Obage [ お化け] = โอบะเกะนั้นแปลตรงๆ ตามความหมายของมันก็คือผี ปกติจะอยู่ในรูปของกลุ่มไอหมอกประหลาดสีดำที่ล่องลองไปตามท้องถนนยามค่ำคืน ซึ่งเมื่อโอบะเกะนั้นเข้าสิงสิ่งใดไม่ว่าคน สัตว์ สิ่งของ สิ่งเหล่านั้นก็จะกลายร่างเป็นผีไปทันใด เช่น ถ้ามันเข้าสิงร่มเก่าๆ ที่มีอายุกว่า 100 ปีแล้ว ร่มนั้นก็จะถูกกลุ่มไอปิศาจอาบมันจนกลายเป็นดวงตาใหญ่โตแสยะยิ้ม หรือที่คนโบราณเรียกว่าผีร่ม ส่วนเวลาปรากฏตัวของโอบะเกะนั้นส่วนมากจะเป็นตอนกลางคืน มันจะล่องลอยไปในท้องถนนยามค่ำคืนและพยายามหาร่างสิงสู่ของมัน วันดีคืนดีชาวบ้านมักจะพบเกวียนเก่าที่ไม่มีคนขับวิ่งไปตามท้องถนนนั้นก็คือที่สิ่งสู่ของวิญญาณร้ายเหล่านี่...
โยวไค youkai [ 妖怪 ] = โยวไค นี้เป็นศัพท์ที่ใช้เรียกเหล่าบรรดาภูติ ผี ปิศาจ ปอบ เปรต และอสุรกายที่มีมาแต่ช้านาน ซึ่งแหล่งที่อยู่เดิมของเหล่าผีพวกนี้คือขุมนรกบ้าง สวรรค์บ้าง บนโลกมนุษย์บ้าง เวลาปรากฏตัวของเหล่าโยวไกนั้นจะเริ่มตั้งแต่ยามโพล้เพล้เป็นต้นไป เช่น ช่วงที่ใกล้ค่ำแล้วท้องฟ้าจะเป็นสีแดง ชาวบ้านมักจะพูดเสมอว่าเวลานี้เป็นเวลาผีออกหากิน และมีธรรมเนียมจะไม่เดินทางไกลในช่วงนี้ เหล่าโยวไคนี้มีมากมายหลายชนิด มีบันทึกเรื่องราวพิศดารนี้อยู่ตามบันทึกญี่ปุ่น เหล่าโยวไคนั้นมีมากหลาย มีทั้งแบบน่าตลกขบขันไปจนถึงน่ากลัวจนขนหัวลุก...
ยูเร yurea [ 幽霊 ] = ยูเร นี้เป็นวิญญาณคนที่ตายไปโดยไม่ทันได้ดับจิต หรือที่เรียกกันว่า ผีตายโหง ด้วยจิตคิดพยาบาทดั่งไฟสุมของดวงวิญญาณเหล่านี้ ทำให้ไม่สามารถไปผุดไปเกิดได้ มีตำนานวิญญาณของหญิงสาวที่โผล่ขึ้นมาจากบ่อน้ำเก่าเล่าขานมากมาย สร้างความหวาดผวาไปทั่ว ยูเรนั้นมีอยู่ทั่วทุกแห่งไม่ว่าจะตามสนามรบเก่า ซึ่งยูเราเหล่านั้นจะเป็นชายชาตินักรบที่ตายอย่างสมศักดิ์ศรี วันดีคืนดีชาวบ้านที่เดินทางผ่านสนามรบเก่าก็จะพบเห็นเหล่ากองทัพผีซามูไรพุ่งรบกันอย่างไม่รู้แพ้รู้ชนะ ตามท้องถนนทั่วไปจะเป็น ยูเร ที่ตายในอุบัติเหตุทำนองเดียวกับผีตายโหง และเหล่าสัมภเวสีต่างที่ล่องลอยไปตามที่ต่างๆ รอวันผุดเกิด เวลาเหมาะสมที่ ยูเร จะปรากฏตัวนั้นคือหลังเที่ยงคืนแต่ ยูเร บางตนก็สามารถปรากฏตัวลางๆได้ในเวลากลางวัน และยูเรส่วนใหญ่นั้นจะเป็นเพศหญิง เพราะผู้หญิงนั้นมีความอาฆาตพยาบาทที่น่ากลัวจริงๆ...















