เราไม่ลงนรกแล้วใครจะลงนรก (พระกษิติครรภ์โพธิสัตว์)
เราไม่ลงนรกแล้วใครจะลงนรก (พระกษิติครรภ์โพธิสัตว์)
"หากในนรกยังไม่ว่างจากสัตว์ที่ต้องรับทุกข์ทรมาน เราก็จะไม่ขอสำเร็จ พระอนุตตรสัมมาสัมโพธิญาณ"
ตี้จางหวางผูซา เป็นพระโพธิสัตว์องค์หนึงของพุทธศาสนามหายานจุตตรนิกาย มีพระนามในภาษาไทยว่า “พระกษิติครรภโพธิสัตว์” (อ่านออกเสียงว่า พระ-กะ-สี-ติ-คับ-โพ-ติ-สัด) มีความหมายว่าพระโพธิสัตว์ผู้มีรูปหนุ่มเช่นพระพุทธเจ้าประจำพิภพ ด้วยเหตุนี้รูปเคารพของพระโพธิสัตว์พระองค์นี้ จะมีรูปหนุ่มเช่นพระพุทธเจ้าเสมอ
ตี้จางหวางผูซาถือเป็นพระฌานิโพธิสัตว์ เพราะเหตุได้ตั้งสัตยาธิษฐานไว้ว่า “จะโปรดสรรพสัตว์ให้หลุดพ้นจากห้วงทุกข์(นรกภูมิ) โดยหมดสิ้นแล้ว จึงจะขอบรรลุสู่พุทธภูมิ หากสรรพสัตว์ทั้งปวง ยังไม่หมดซึ่งห้วงทุกข์(นรกภูมิ) ก็จะไม่ขอตรัสเป็นพระพุทธเจ้า” ด้วยสัตยาธิษฐานดังกล่าว พุทธศาสนามหายานจึงมีคติว่า ตี้จางหวางผูซาเป็นผู้มีเมตตากรุณาต่อสัตว์นรก ในอบายภูมิทั้ง 4 โลกธาตุ (นรก, ดิรัจฉาน, เปรต, อสูร) ทรงแผ่กุศลผลบุญเป็นปัตติทานแก่สัตว์นรกในทุกขุมนรก
อีกพระองค์ยังเป็นที่เคารพนับถือยำเกรงของ พญามาราธิราช และจอมอสูรทั้งปวง
ศาสนพิธีต่างๆซึ่งจะต้องเกี่ยวข้องกับการโปรดสัตว์ จึงหนีไม่พ้นที่จะต้องโปรดสรรพสัตว์ในอบายภูมิด้วย จึงต้องอัญเชิญองค์ตี้จางหวางผูซามาประดิษฐานไว้เสมอ
รูปเคารพของพระองค์มักเขียนหรือทำเป็นรูปพระโพธิสัตว์ทรงครองผ้าแบบภิกษุ ทรงพระมาลาเป็นรูปกลีบบัวติดกัน หรือห้าแฉก (มาลาห้าพระพุทธเจ้า) ติดกันรวมห้ากลีบ มีผ้าทำเป็นรูปคล้ายผ้าพันคอเลอร์สากลเป็นสองชายห้อยลงมาข้างหู พระหัตถ์ขวาทรงคฑาธุดงค์ (บ้างก็เรียก ขัคขระ หรือ ขัฑคะ คือ พระขรรค์ไม่เรียบ) ทำเป็นรูปนั่งบนฐานบัวบ้าง ยืนบ้าง หรือทรงพาหนะสิงโตบ้าง
มีเรื่องเล่าว่า ในสมัยราชวงศ์ถัง มีเมืองชื่อซินเหลอ(ปัจจุบันคือเกาหลี) มีพระราชกุมารพระองค์หนึงทรงพระนามว่า จิน เจียว เจะ อุปนิสัยเมตตากรุณา สงบเสงี่ยม รักความสันโดษ เล่าเรียนศึกษาศิลปศาสตร์ต่างๆได้อย่างรวดเร็ว และมีความชำนิชำนาญ ครั้นได้ศึกษาพระธรรม ก็มีศรัทธาเลื่อมใสว่า ไม่มีศาสตร์ใดเทียบได้ จึงเกิดความเบื่อหน่ายในโลกียวิสัย สละราชสมบัติออกผนวชเป็นพระภิกษุในพระพุทธศาสนา ได้ออกจาริกมายังประเทศจีนพร้อมด้วยสุนัขชื่อ ส่านทิง(หมายความว่าได้ยินแต่สิ่งมงคล)
ภิกษุเจียวเจะจาริกมาจนบรรลุถึงมณฑลอังฮุย เห็นบริเวณภูเขากิมฮั้วสภาพร่มรื่นเหมาะแก่การบำเพ็ญสมณธรรม จึงได้อาศัย ณ ที่นั้นฝึกปฏิบัติธรรมตลอดมา จนถึงแผ่นดินพระเจ้าถังเฮียนจง ปีที่ 16 เดือน 7 วันที่ 10 ก็สำเร็จบรรลุธรรม รู้แจ้งในสูญญตาธรรม
ณ บริเวณเชิงเขากิมฮั้ว มีนายบ้านชื่อ เมี่ยงกง เป็นผู้มีจิตใจโอบอ้อมอารี ชอบทำบุญถวายทานแก่สมณะและคนยากไร้ วันหนึ่งคหบดีเมี่ยงกงได้ไปพบสนทนาธรรมกับภิกษุเจียวเจะ เป็นที่ถูกอัธยาศัย ให้เลื่อมใสใคร่จะถวายจตุปัจจัยให้ จึงได้ถามภิกษุเจียวเจะว่าจะปรารถนาสิ่งใดหรือไม่ พระภิกษุเจียวเจะ ก็ตอบขอที่สำหรับบำเพ็ญธรรมและเผยแพร่พระศาสนา เพียงเนื้อที่จีวรหนึ่งผืนเท่านั้น
คหบดีเมี่ยงกงให้เกิดความประหลาดใจนัก แต่ได้ตอบรับยกให้ในทันที พระภิกษุเจียวเจะ จึงได้โยนจีวรขึ้นบนอากาศ เกิดปฏิหาริย์ จีวรคลุมไปทั่วภูเขากิมฮั้ว เป็นเหตุให้คหบดียินดีและศรัทธาเพิ่มยิ่งขึ้นกว่าเดิม ถึงกับให้บุตรชายออกบวชเป็นศิษย์ ภิกษุนี้ต่อมาได้เป็น ต้าวหมิงเหอซ้าง สร้างรูปเคารพเป็นพระภิกษุยืนอยู่ด้านซ้ายมือของตี้จางหวางผูซา และกาลต่อมาคหบดีเมี่ยงกงก็ได้สละสมบัติออกบวชตามอย่างบุตรชายของตน และสำเร็จมรรคธรรม มีรูปเคารพของคหบดีเมี่ยงกง ยืนอยู่ด้านขวาของตี้จางหวางผูซา
ส่วนด้านหลังของตี้จางหวางผูซา สุนัขส่านทิงนอนหมอบอยู่

















