หน้าแรก ตรวจหวย เว็บบอร์ด ควิซ Pic Post แชร์ลิ้ง หาเพื่อน Chat หาเพื่อน Line Page อัลบั้ม คำคม Glitter เกมถอดรหัสภาพ คำนวณ การเงิน ราคาทองคำ กินอะไรดี
ติดต่อเว็บไซต์ลงโฆษณาลงข่าวประชาสัมพันธ์แจ้งเนื้อหาไม่เหมาะสมเงื่อนไขการให้บริการ
เว็บบอร์ด บอร์ดต่างๆค้นหาตั้งกระทู้

ชุดตรวจการตั้งครรภ์ จะใช้หลังมีเพศสัมพันธ์กี่วัน ถึงจะทราบผล?

โพสท์โดย MorzJiez

เมื่อไรจึงจะเหมาะในการตรวจการตั้งครรภ์ - ตรวจการตั้งครรภ์ได้เมื่อไร?

 เมื่อมีการตกไข่ ไข่จะมีอายุให้เชื้ออสุจิมาปฏิสนธิได้เพียง 1 วันเท่านั้น เมื่อปฎิสนธิแล้วจะแบ่งตัวและเดินทางมาที่โพรงมดลูก ฝังตัวเข้ากับเยื่อบุโพรงมดลูกในวันที่ 7 หลังการปฏิสนธิ เมื่อตัวอ่อนฝังตัว เราถือว่าเริ่มตั้งครรภ์ ตัวอ่อนจะเริ่มสร้างฮอร์โมน Beta HCG เพื่อกระตุ้นให้รังไข่สร้างฮอร์โมนโปรเจสเตอโรน ทำให้เยื่อบุมดลูกสมบูรณ์มากขึ้น

Beta HCG ถูกสร้างขึ้นมาจะเข้าไปในกระแสเลือด จะมีความเข้มข้นมากขึ้นเมื่ออายุครรภ์มากขึ้น และจะขับถ่ายออกมาทางปัสสาวะ

เราใช้ฮอร์โมน Beta HCG ในการตรวจภาวะการตั้งครรภ์โดยการเจาะเลือด ตั้งแต่วันที่ 9-10 หลังจากปฏิสนธิ และตรวจโดยการใช้ชุดตรวจปัสสาวะ ตั้งแต่วันที่ 15 เป็นต้นไป หลังจากวันดังกล่าว ความชัดเจนจะยิ่งมีมากขึ้น

 

ดังนั้นถ้าเราทราบวันตกไข่ หรือวันปฏิสนธิเราก็จะรู้ว่าควรจะตั้งครรภ์ได้เมื่อไร

ในกรณีที่ไม่ ทราบวันตกไข่ ทราบแต่วันมีเพศสัมพันธ์ครั้งสุดท้าย ก็พอจะประยุกต์ใช้ได้คือ เมื่อมีเพศสัมพันธ์และเชื้ออสุจิเข้าไปที่ปากมดลูก มันอาจจะมีชีวิตรอปฎิสนธิได้นานที่สุด 5 วัน หมายความว่า ถ้าไข่ตกภายใน 5 วัน หลังการมีเพศสัมพันธ์ ยังมีโอกาสตั้งครรภ์ได้ ถ้าเกินนั้นไม่ควรจะมีการตั้งครรภ์

 

ดังนั้น ถ้ามีการตั้งครรภ์ ควรตรวจเลือดเป็นบวกหลังจากมีเพศสัมพันธ์ครั้งสุดท้าย 15 วัน หรือตรวจปัสสาวะเป็นบวก หลังจากมีเพศสัมพันธ์ครั้งสุดท้าย 20 วันขึ้นไป ถ้าตรวจแล้วเป็นลบก็แปลว่าไม่ตั้งครรภ์ ตัวอย่างเช่น ไม่ทราบวันตกไข่ มีเพศสัมพันธ์ครั้งสุดท้าย 1 มกราคม ไข่ที่ตกวันที่ 1-5 มกราคม มีโอกาสได้รับปฏิสนธิ ไข่ที่ตกวันที่ 6 มกราคม หรือหลังจากนั้นไม่ควรได้รับการปฏิสนธิ ดังนั้น ถ้าตรวจเลือดวันที่ 15 มกราคม หรือ ตรวจปัสสาวะวันที่ 20 มกราคม ก็จะบอกได้เลยว่าตั้งครรภ์หรือไม่ตั้งครรภ์

 
 
โดยสรุปก็คือ การตรวจปัสสาวะเพื่อการทดสอบด้วยตนเองเป็นเพียงการทดสอบเบื้องต้นที่จะ บอกว่าตนเอง น่าจะ ตั้งครรภ์หรือไม่ ถ้าได้ผลบวก แต่อาการของเราไม่ตรงกับอาการที่น่าจะท้อง หรือตรงกันก็ตาม แต่ผลตรวจแตกต่างออกไปก็ควรที่จะปรึกษาแพทย์ที่ใช้วิธีตรวจที่แม่นยำมาก ขึ้น เช่นการตรวจเลือดหาระดับฮอร์โมนการตั้งครรภ์ หรือการทำ อัลตราซาวนด์ เป็นต้น
ที่มา: ขอบคุณ sukapabdee.com
⚠ แจ้งเนื้อหาไม่เหมาะสม 
MorzJiez's profile


โพสท์โดย: MorzJiez
เป็นกำลังใจให้เจ้าของกระทู้โดยการ VOTE และ SHARE
16 VOTES (4/5 จาก 4 คน)
Hot Topic ที่น่าสนใจอื่นๆ
พระราชวังสมุทรปราการย้อนรอยเส้นทางประวัติศาสตร์: ภาพถ่ายหายากเมื่อกว่า ๑๐๙ ปีก่อน กับการสร้างทางหลวงสายลำปาง-เชียงรายท่าเตียน (2516): ตำนานยักษ์วัดแจ้งปะทะวัดโพธิ์ บนจอยักษ์เฉลิมกรุง10 เลขขายดี "หวยใบแดง" งวดวันที่ 1 มิถุนายน 68 มาแล้ว!..อยากรวย รีบส่องเลย!!รู้หรือยัง โควิดสายพันธุ์ใหม่กำลังระบาดแบบเงียบ ๆ รู้ก่อนจะสายเกินไปงูกลัวอะไรมากที่สุด? คำตอบอาจทำให้คุณแปลกใจ มาดูกันท้องโตอาจไม่ใช่พุง: ภัยร้ายที่หลอกตา กว่าจะรู้ก็เกือบสาย
Hot Topic ที่มีผู้ตอบล่าสุด
ถ้าโลกนี้ไม่มี “แมลงสาบ”อย่ารอป่วยแล้วค่อยดูแลตัวเอง! 5 นิสัยที่ช่วยให้สุขภาพดีระยะยาวเมื่อกฎหมายเยาวชนถูกท้าทาย คดีสะเทือนขวัญที่เปลี่ยนโฉมหน้ากระบวนการยุติธรรมญี่ปุ่น“สัตว์เหล็ก” ตัวใหม่ของ คิม จองอึน.โรงหนังเฉลิมบุรี ความทรงจำกลางเยาวราช จากจอเงินสู่ลานจอดรถ
ตั้งกระทู้ใหม่