เมื่อไหร่ทัศนคติทุเรศ ไปฟิตเนสต้องเป็นเกย์ จะหมดไปจากสังคมไทย [drama]
ผมออกกำลังกายมาตั้งแต่เด็กๆ แล้วล่ะครับ ชอบมากๆ ไอดอลในดวงใจผมคือ อาร์โนล์ด ชวาเซเนเกอร์ แต่ประเด็นผมจะไม่ได้มาพูดเรื่องส่วนตัวของผมหรอกครับ มันไม่ได้น่าสนใจอะไรนักหรอก
ประเด็นที่จะบอกคือ ผมชอบออกกำลังกายด้วยความรักจริงๆ แต่เมื่อไม่นานมานี้ผมไปฟิตเนส และบุคลิกผมเป็นคนเงียบๆ ไม่ค่อยพูด มันเลยดูติ๋มๆ นิดหน่อย แต่หน้าตาไม่ติ๋ม ออกแนวโง่ๆ มากกว่า
ด้วยบุคลิกแบบนี้ พอคนในที่ทำงานผมรู้ว่าผมไปฟิตเนส ก็เข้ามาถามแบบจริงๆ จังๆ ว่า เป็นเกย์หรือเปล่า จะเอากล้ามไปอวดหนุ่มๆ เหรอ?
ผมฟังทีแรกก็ขำๆ ตามน้ำไปก่อน เพราะเขาขำ แต่ประเด็นนี้ผมว่ามันค่อนข้างดูถูก (insult) คนไปออกกำลังกายมากพอสมควร เพราะหลังจากนั้นเขาพูดประมาณว่า ลูกพี่มันก็เคยไปเล่น แต่หลังๆ มันไม่ไปแล้ว เพราะพวกเกย์มันชอบเหล่ตามอง แต่ป้าคนที่พูดคนนี้ก็หุ่นหนัก 100 กิโลกรัม + เป็นโรคเบาหวานความดันด้วยนะครับ
บอกไว้ก่อนว่าผมชายทั้งแท่งนะครับ แต่เจอคำพูดแบบนี้น่าถีบปากมากๆ โกรธแทนเพศที่ 3 แต่ก็ได้แค่คิด
อยากรู้ว่า การที่ไปออกกำลังกายที่ฟิตเนสนี่คือต้องเป็นเกย์เสียส่วนใหญ่ด้วยเหรอครับ?
และการที่เกย์ไปออกกำลังกายมันไม่ดีตรงไหนวะครับ ก็เขาดูแลสุขภาพมันก็ดีแล้วไม่ใช่เหรอ
และเท่าที่ผมไปยิมก็ไม่ได้มีคนมีพฤติกรรมแบบนี้เสมอไปนะ ผมว่าพวกนี้อาจจะมีจริงๆ แต่เรารักสุขภาพก็ไม่จำเป็นต้องไป
แคร์หรือใส่ใจ
ป.ล. ผมก็ไม่ได้ซีเรียสอะไรมากหรอกนะ เก็บมาเล่าให้ฟัง แต่ยอมรับว่าช่วงแรกๆ ที่เจอคำถามนี่ อารมณ์เสียนิดๆ
ภาพประกอบจากอินเตอร์เน๊ต ไม่เกี่ยวข้องกับ เจ้าของบทความนะครับ

















