กลิ่นตัวผู้ชายทำให้หายได้ด้วยวิธีใดบ้าง
คุณผู้ชายคงจำได้ว่ามีความเปลี่ยนแปลงเกิดขึ้นกับร่างกาย ของคุณหลายประการ เมื่อคุณย่างเข้าสู่วัยหนุ่ม ตั้งแต่เสียงห้าว หน้ามันขึ้น มีหนวดเครา และมีกล้ามเนื้อเป็นมัดๆ ฯลฯ การเปลี่ยนแปลงเหล่านี้เป็นผลมาจากอิทธิพลของฮอร์โมนเพศชายที่มีระดับสูงขึ้นนั่นเอง ความเปลี่ยนแปลงอีกอย่างหนึ่งที่เกิดขึ้นกับคุณผู้ชายหลายๆ คนในช่วงนี้ก็คือ "กลิ่นตัว"
เคยสงสัยไหมว่าทั้งที่อาบน้ำรักษาร่างกายให้สะอาดอยู่เสมอแต่ทำไมยังมีกลิ่นตัวอยู่อีก ?
ที่เป็นเช่นนี้เพราะ คนเรามีแหล่งกำเนิดกลิ่นอยู่บนร่างกายด้วยกันหลายจุด จุดสำคัญที่สุดของกลิ่นตัวคือ ต่อมเหงื่อชนิดหนึ่งที่พบมากบริเวณรักแร้ และอวัยวะเพศ ต่อมเหงื่อชนิดนี้มีชื่อเรียกว่า “aprocrine” ซึ่งจะเริ่มทำงานเมื่อเข้าสู่วัยรุ่น ต่อมเหงื่อชนิดนี้มีหน้าที่สร้างสารที่มีกลิ่นคล้ายฟีโรโมน สารชนิดนี้มีสีขาวขุ่น ในระยะแรกที่หลั่งออกมา จะไม่มีกลิ่นหลังจากถูกย่อยโดยเชื้อแบคทีเรียซึ่งอาศัยอยู่บนผิวหนังจึงทำให้เกิดกลิ่นเกิดขึ้น
นอกจากกลิ่นตัวจะมีสาเหตุจากธรรมชาติของร่างกายทำปฏิกิริยากับแบคทีเรียที่อยู่ตามผิวหนังแล้ว ยังมีปัจจัยแวดล้อมอื่นๆ อีกมากมายที่ทำให้คนเรามีกลิ่นตัว บางปัจจัยรู้ไว้ก็อาจหลีกเลี่ยงได้ ตัวเราก็จะได้ไม่มีที่ไม่พึงประสงค์
- สภาพอากาศ ในฤดูร้อน หรือภาวะที่มีอากาศร้อนชื้น เชื้อแบคทีเรียที่ผิวหนังจะเพิ่มจำนวนได้อย่างรวดเร็ว แบคทีเรียเหล่านี้จะย่อยสลายเหงื่อที่หลั่งจากต่อม aprocrine, ไขมันจากต่อมไขมัน และเซลล์ผิวหนังได้เร็วขึ้น จึงทำให้กลิ่นตัวเกิดขึ้นได้ง่ายและรุนแรงขึ้น
- เสื้อผ้า เสื้อผ้าที่หนาหรือผ้าบางชนิด เช่น ผ้าไยสังเคราะห์จะทำให้เหงื่อระบายช้า ผิวหนังจึงมีความอับชื้น ทำให้ปริมาณแบคทีเรียบนผิวหนังเพิ่มขึ้น และเกิดกลิ่นตัวง่ายขึ้น
- อารมณ์ อารมณ์เครียด โกรธ ตกใจ จะกระตุ้นให้ต่อม eccrine ใต้รักแร้ หน้าผาก และฝ่ามือหลั่งเหงื่อออกมามากขึ้น ทำให้ผิวหนังบริเวณดังกล่าวมีความชื้นมากขึ้น แบคทีเรียที่ผิวหนังจึงมีจำนวนมากขึ้น
- อาหารหรือยาบางชนิด เช่น กระเทียม หัวหอม เครื่องเทศ และสารหนู เป็นต้น เป็นสารมีกลิ่นที่ขับออกมาทางเหงื่อ
- โรคบางชนิด เช่น โรคเบาหวาน โรคเก้าท์ โรคทางสมอง และภาวะผิดปกติทางระบบเผาผลาญอาหารบางชนิด ร่างกายจะสร้างสารเคมีบางอย่างที่มีกลิ่น และขับออกมาทางเหงื่อ
กลิ่นตัวป้องกันและรักษาได้ไม่ยาก
1. ผลิตภัณฑ์ที่มีส่วนผสมของสารฆ่าเชื้อแบคทีเรีย ซึ่งมักอยู่ในรูปของสบู่ หรือผสมอยู่ในผลิตภัณฑ์ระงับกลิ่นตัวอื่นๆ สารเหล่านี้จะช่วยลดปริมาณของเชื้อแบคทีเรียบนผิวหนัง จึงช่วยระงับกลิ่นตัว โดยเฉพาะ ใช้สารยับยั้งการหลั่งเหงื่อ (antiperspirants) ได้แก่ สารประเภทอลูมิเนียม หรือเซอร์โคเนียม ซึ่งอาจอยู่ในรูปของลูกกลิ้ง สเปรย์ เจลแท่ง หรือครีม
สารพวกนี้จะทำปฏิกิริยากับเหงื่อทำให้เกิดการ อุดตันในท่อต่อมเหงื่อชนิด eccrine จึงระงับการหลั่งเหงื่อ และลดความชื้นของผิวหนังใต้รักแร้ได้ โดยทั่วไปสารเหล่านี้จะทำให้ท่อของต่อมเหงื่ออุดตันอยู่ 2 -4 วัน จึงต้องใช้ทุกวันจึงจะได้ผลดี
2. หลีกเลี่ยง การรับประทานสารที่ก่อให้เกิดกลิ่นตัว เช่น หัวหอม กระเทียม เครื่องเทศ
3. การรักษาอื่น ๆ ได้แก่ การผ่าตัดเอาต่อมเหงื่อออกหรือการฉีดยาเพื่อลดการทำงานของต่อมเหงื่อ โดยทั่วไปจะใช้วิธีการเหล่านี้เฉพาะในรายที่มีอาการรุนแรง หรือใช้วิธีต่าง ๆ ข้างต้นไม่ได้ผล ซึ่ง ตรงนี้ต้องเป็นหน้าที่ของแพทย์ที่จะวินิจฉัยว่าวิธีใดเหมาะสม


















