ย้อนรอยจุดต่ำสุดมนุษย์!!!"คืนบาปพรหมพิราม"
คดีที่สะท้อนถึง จุดต่ำสุดของความเป็นมนุษย์ อาชญากรรมทางเพศที่เลวร้ายที่สุดในประวัติศาสตร์ไทย เรื่องราวความเป็นมาของคดี ข่าวนี้ในสมัยนั้นคึกโครมมาก เพราะมีผู้ต้องหาถึง 30 คนหรือมากกว่านั้น เรียกได้ว่าแทบจะหมดหมู่บ้านเลยก็ว่าได้ ผู้ต้องหารายสุดท้าย สารภาพว่า ข่มขืนผู้หญิงนี้ไปรอบหนึ่งแล้ว และผู้หญิงเดินไปล้างเลือดที่ข้างบ่อน้ำ จำเลยได้ตามไปจะข่มขืนซ้ำอีก แต่ผู้หญิงบอกว่า ไม่พออีกหรือ และพยายามขัดขืน จึงจับผู้หญิงมานั่งพิงแบบกึ่งนั่งกึ่งนอนที่โคนต้นไม้และลงมือข่มขืน พร้อมกับบีบคอไปด้วย จนเสียชีวิตในที่สุด
หลังจากข่าวนี้ก็มีการสืบหา การ์ดรถไฟคนที่ไล่ผู้หญิงลงจากรถ ก็พบตัว โดยการ์ดนั้นสารภาพว่า ผู้หญิงคนนี้ไม่ซื้อตั๋วรถ โดยอ้างว่าไม่มีเงิน เพราะกำลังจะไปตามสามี ขอนั่งไปลงพิจิตร แต่การ์ดไม่อนุญาต โดยอ้างว่าผิดระเบียบ และไล่ให้ลงที่สถานีพรหมพิราม ซึ่งเป็นสถานีเล็กๆจนต้องมาประสบชะตากรรมดังกล่าว
ประเด็นนี้มีการพูดถึงอย่างกว้างขวางมากว่าทำไมรถไฟต้องโหดร้ายขนาดนั้น อย่างน้อยก็น่าจะรอให้ถึงสถานีระดับจังหวัดที่มีคนหรือเจ้าหน้าที่ประจำอยู่ก่อนแล้วให้ลงก็ได้ จำได้ว่ามีพวกองค์กรสตรีกับนักการเมืองออกมาพูดกันหลายคน แล้วก็เงียบ ๆ ไปไม่รู้ว่ารถไฟยังมีนโยบายไล่ลงจากรถอีกหรือเปล่า
เรื่องจริงคดีนี้ถูกสร้างเป็นหนัง ชื่อเรื่อง “คนบาปพรหมพิราม” แต่ถูกชาวบ้าน อ.พรมพิราม รวมตัวกันคัดค้าน จึงเปลี่ยนเป็นเรื่อง “คืนบาป พรมพิราม” ข่าวนี้ทีแรกก็เป็นแค่ข่าวอุบัติเหตุธรรมดา แต่ต่อมามีการขุดคุ้ยจากนักข่าวท้องถิ่น โดยเริ่มตั้งแต่ว่า ผู้หญิงคนนี้ไม่ใช่คนในท้องถิ่น ทำไมอยู่ดี ๆ มาถูกรถทับตายที่นี่ได้ และคนแถวนั้นก็ไม่รู้จัก ทำไมอยู่ ๆ ถึงมาที่อำเภอนี้ แสดงว่าต้องถูกฆ่าตายมาจากที่อื่นแล้วนำมาอำพรางคดี หรือ ตกรถไฟแล้วถูกรถทับตายซึ่งสมัยนั้นเกิดบ่อยเพราะพวกชอบปีนหลังคารถไฟนั่งฟรี
เมื่อตรวจเช็คที่การรถไฟ ก็ไม่พบว่าเกิดอุบัติเหตุคนตกรถไฟบริเวณนั้น และเมื่อชันสูตรพลิกศพกับไปสืบสวนในพื้นที่จึงพบความจริงที่น่าตกใจว่า ผู้หญิงคนนั้นถูกการ์ดรถไฟไล่ลงจากรถกลางดึกเพราะไม่มีเงินค่าตั๋ว พอดีกับในช่วงนั้นมีการจัดงานบุญอะไรสักอย่าง ทำให้มีชาวบ้านที่พึ่งกลับจากร่วมงานมาจำนวนมาก มาพบกับผู้หญิงคนนี้เดินตามทางรถไฟอยู่ จึงหลอกพาไปข่มขืน ครั้งแรกจำนวนที่ข่มขืนก็ไม่มาก แต่มีการตามพวกผู้ชายที่เมาเหล้าจากในงานอีกมาร่วมด้วย โดยทยอยกันมาเรื่อย ๆ จนกระทั่งคนสุดท้ายที่นอกจากจะข่มขืนแล้วยังเผลอบีบคอผู้หญิงคนนั้นให้ด้วย ทำให้เสียชีวิต มีหลักฐานชิ้นหนึ่งที่ทำให้ตำรวจไม่เชื่อว่าเป็นอุบัติเหตุ คือ เหล่าทรชน ได้ทำพิธีทางไสยศาสตร์เพื่อสะกดวิญญาณศพด้วย

















