หน้าแรก ตรวจหวย เว็บบอร์ด ควิซ Pic Post แชร์ลิ้ง หาเพื่อน Chat หาเพื่อน Line Page อัลบั้ม คำคม Glitter เกมถอดรหัสภาพ คำนวณ การเงิน ราคาทองคำ กินอะไรดี
ติดต่อเว็บไซต์ลงโฆษณาลงข่าวประชาสัมพันธ์แจ้งเนื้อหาไม่เหมาะสมเงื่อนไขการให้บริการ
เว็บบอร์ด บอร์ดต่างๆค้นหาตั้งกระทู้

เตือนภัยอันตราย !!!! ความจริงเกี่ยวกับการลวกช้อนส้อมในห้าง สามารถฆ่าเชื้อโรคได้จริงเหรอ?

โพสท์โดย ผีเจ้า

เวลาเราไปรับประทานอาหารตามสถานที่ต่างๆ ไม่ว่าจะเป็นห้างสรรพสินค้า ร้านอาหารทั่วไป อาจมีการใช้หม้อหุงข้าวต้มน้ำร้อนเพื่อลวกช้อนส้อมฆ่าเชื้อโรคไว้บริการ เชื่อหรือไม่ว่าการฆ่าเชื้อโรคด้วยวิธีดังกล่าว แท้จริงแล้วไม่สามารถช่วยอะไรได้เลย กลับกลายเป็นสร้างโรคให้ตัวคุณแทน

เมื่อวันที่ 1 ตุลาคม 2558 ที่ผ่านมา ทนพ. ภาคภูมิ เดชหัสดิน นักเทคนิคการแพทย์ ได้ออกมาโพสต์ข้อความบนเฟซบุ๊คส่วนตัว ระบุว่า

"ผมขอบอกว่า ผมไม่เคยลวกช้อนส้อมด้วยหม้อหุงข้าวเลย เหตุผลคือ เราต้องการทำลายเชื้อแบคทีเรียหรือไวรัสต่างๆใช่มั้ยครับ เช่น ไวรัสตับอักเสบเอ บลาๆๆ แต่คุณรู้มั้ย การทำลายมันจะต้องใช้อุณหภูมิที่สูงกว่า98 องศาเซลเซียส และใช้เวลานานถึง 4 นาที แล้วไอ้ที่เราลวกแป๊บๆ สะบัดๆ คืออัลไรคร้าบบบ! แล้วหม้อหุงข้าวตามศูนย์อาหารมันมีอุณหภูมิน้ำไม่สูงพอ ที่จะทำลายเชื้อโรคได้ นอกจากจะไม่ตาย ยังทำให้เชื้อโรคเพิ่มจำนวนมหาศาลสะสมอยู่ในน้ำนั้นอีกด้วย น้ำก็ต้องเปลี่ยนบ่อยๆ และที่สำคัญอุณหภูมิสูงกว่า 45 องศาเซลเซียส จุ่มๆไป นอกจากจะเป็นอุณหภูมิที่ยังไม่สามารถฆ่าแบคทีเรียได้ ยังทำให้มันปรับตัวเพิ่มจำนวนขึ้นอีกมากมายเพื่อให้ตัวมันอยู่รอดได้มากที่สุด สรุปว่าหม้อหุงข้าวคืออ่างจากุ๊ดชี่สำหรับไวรัสและแบคทีเรียดีๆนี่เอง นอนอาบน้ำอุ่นสบายกันจริงๆเรย"

นั่นหมายความว่า การลวกช้อนส้อมที่ถูกต้องและปลอดภัยต้องใช้อุณหภูมิสูงถึง 98 องศาเซลเซียส และใช้เวลานานกว่า 4 นาทีเลยทีเดียว ซึ่งหม้อต้มน้ำเดือดทั่วไปแท้จริงมีอุณหภูมิทำให้น้ำอุ่นๆ เท่านั้น ไม่สามารถทำลายเชื้อโรคได้ ที่สำคัญคนส่วนใหญ่มักจะจุ่มๆแบบสะบัดๆแทบจะไม่ถึงครึ่งนาทีด้วยซ้ำ

⚠ แจ้งเนื้อหาไม่เหมาะสม 
ผีเจ้า's profile


โพสท์โดย: ผีเจ้า
เป็นกำลังใจให้เจ้าของกระทู้โดยการ VOTE และ SHARE
4 VOTES (4/5 จาก 1 คน)
Hot Topic ที่น่าสนใจอื่นๆ
กัมพูชาตั้งคำถาม เพราะอะไร ไทยถึงไม่ยกบ้านหนองจานให้เขมร ทั้งที่เป็นศูนย์พักพิง เขมรอยู่มานานกว่า 44 ปีรัก 77 ปีพังเพราะจดหมาย คู่รักอิตาลีวัย 99 กับ 96 ที่กลายเป็นคู่หย่าร้างอายุมากที่สุดในโลกเพจดังเปิดภาพ พลโทหญิง มาลี โสเจียตา โฆษกกระทรวงกลาโหมกัมพูชา วิ่งไล่สุนัขขณะกำลังใส่บาตรเปิดเส้นทาง ‘บอส อัศม์ กรณ์’ นักธุรกิจหนุ่มรุ่นใหม่ ครอบจักรวาลอสังหาฯ-การลงทุนอุบัติเหตุรถไถเดินตามกับรถจักรยานยนต์ของทหารเขมรชนกันอยู่บนถนน ชาวเน็ตไทยคอมเม้น จัดฉากอยากได้รถใหม่จากดาว A\/ สู่ศิลปิน 'โมเอะนะ' เส้นทางใหม่ของ เฮกาว่า ซายากะ พร้อมเคล็ดลับความงาม!อ.อ๊อด ชี้ชัด!หลวงพ่ออลงกต เรียน ปวช.เกษตร บ้านกร่าง ไม่ใช่ม.เกษตรดาราสาวดัง ปฏิเสธวัดปริมาณแอลกอฮอล์ ด้านแฟนหนุ่มลงมาด่าทอเจ้าหน้าที่ โดนแจ้งความดำเนินคดีทั้งคู่ทหารหญิงเขมรได้ผ้ายันต์คงกะพัน เตรียมไปแนวหน้าเส้นทางความรักของ "มารี เบรินเนอร์" จากรักแรกถึงข่าวลือล่าสุดนัดเดตครั้งเดียว กลายเป็นสยอง หญิงส่ง 159,000 ข้อความ ไล่ตามผู้ชายจนกลายเป็นฝันร้ายที่แอริโซนาเขมรซื้อของในห้างที่พนมเปญ แกะดูฉลากสินค้า กลัวเสียมสวมรอย
Hot Topic ที่มีผู้ตอบล่าสุด
เส้นทางความรักของ "มารี เบรินเนอร์" จากรักแรกถึงข่าวลือล่าสุดเหมือนปาฏิหาริย์! พบกระเป๋าสตางค์ที่หายไปเมื่อ 11 ปีก่อน อยู่ห่างออกไปหลายพันกิโลและของทุกชิ้นยังอยู่ครบเขมรเล่นใหญ่ สวมชุดป้องกันเคมี ชีวะ รังสี นิวเคลียร์ (CBRN) เก็บตัวอย่างนํ้าและดินจากบริเวณหลุมไข่ F-16 เพื่อตรวจหาสารกัมมันตรังสีและสารเคมีชนิดร้ายแรงอัศจรรย์พระอาทิตย์ทรงกลดบนยอดภูมะเขือ ขณะเปลี่ยนเสาธงชาติใหม่ สวยสง่าใหญ่กว่าเดิมรัก 77 ปีพังเพราะจดหมาย คู่รักอิตาลีวัย 99 กับ 96 ที่กลายเป็นคู่หย่าร้างอายุมากที่สุดในโลกจากดาว A\/ สู่ศิลปิน 'โมเอะนะ' เส้นทางใหม่ของ เฮกาว่า ซายากะ พร้อมเคล็ดลับความงาม!
กระทู้อื่นๆในบอร์ด สาระ เกร็ดน่ารู้
นัดเดตครั้งเดียว กลายเป็นสยอง หญิงส่ง 159,000 ข้อความ ไล่ตามผู้ชายจนกลายเป็นฝันร้ายที่แอริโซนารัก 77 ปีพังเพราะจดหมาย คู่รักอิตาลีวัย 99 กับ 96 ที่กลายเป็นคู่หย่าร้างอายุมากที่สุดในโลกการศึกษาไทยน่าห่วง! อยู่อันดับท้ายๆ ของอาเซียน4 เหตุผลที่คนอยากรับราชการ
ตั้งกระทู้ใหม่