ผอ.พศ.พิษณุโลก สอบ 'พระศักดา กลุณวัฒโณ' ขับรถชนนิสิต มน.ตาย2 ปฏิเสธถุงยางยกทรงสตรี

"รับแจ้งจาก สภ.วังน้ำคู้ พิษณุโลก
มีเหตุ ว.40 จยย+รถยนต์นั่งส่วนบุคคล บริเวณถนนเรียบคลองชลประทาน พื้นที่ ม.8 ต.วัดพริก อ.เมือง จ.พิษณุโลก

ณ จุดเกิดเหตุพบผู้ได้รับบาดเจ็บ 3 ราย รับดำเนินการ-ช่วยเหลือนำส่งโรงพยาบาล และยังพบผู้เสียชีวิต 2 ราย เบื้องต้นรับดำเนินการ ผู้เสียชีวิต นำส่งตรวจที่นิติเวช รพ.มหาวิทยาลัยนเรศวร จ.พิษณุโลก
8/12/58 ขอแสดงความเสียใจด้วยครับ"

ผู้ร่วมเดินทางในรถยนต์
1)พระศักดา กลุณวัฒโณ (วัดยางเอน)ผู้ขับรถยนต์ที่ประสบเหตุ
2)พระสันติ สุจินโณ (วัดวัดนิมิตธรรมาราม)
3)นายสุรัชช์ ขันตี (อ้างของทุกสิ่งอย่างเป็นของลูกศิษย์ )
4)ของในรถยนต์ที่ตรวจพบ ถุงยางอนามัยหลายชิ้น,วิกผมปลอมของสตรี,เสื้อชั้นใน

คืบหน้าเหตุพระขับรถเก๋งชน 2นิสิต มหาวิทยาลัยนเรศวรเสียชีวิต ล่าสุดเจ้าหน้าที่ตำรวจเปิดเผยว่า พระเป็นผู้ขับรถยนต์เก๋งคันดังกล่าว  ปฏิเสธ เสื้อใน  วิกผม และถุงยางเป็นของลูกศิษย์ ที่ไปด้วยกัน  ขณะที่ ผอ.สำนักงานพระพุทธศาสนาจังหวัดพิษณุโลก กล่าวว่า  หากผลการสอบสวนพบว่าพระสงฆ์รูปนี้ขับรถยนต์จริงก็ถือว่าผิดพระธรรมวินัย

จากกรณี พระศักดา กลุณวัฒโณ พระลูกวัดยางเอน อ.เมืองพิษณุโลก ได้ขับรถไปทำธุระที่วัดกำแพงมณี อ.บางกระทุ่ม จ.พิษณุโลก พร้อมด้วยพระสันติ สุจินโณ ลูกพระวัดวัดนิมิตธรรมาราม และนายสุรัชช์ ขันตี ลูกศิษย์ ระหว่างทางเมื่อขับมาถึงบริเวณถนนเลียบคลองชลประทาน ใกล้เคียมหาวิทยาลัยนเรศวร ม.8บ้านยางโทน ต.วัดพริก อ.เมือง จ.พิษณุโลก ได้เกิดอุบัติเหตุชนประสานงากับรถจักรยานยนต์ ของ 2นิสิต จนทำให้มีผู้เสียชีวิต 2ราย ตามข่าวที่ได้รายงานไปแล้วก่อนหน้านี้

ล่าสุด ร.ต.อ.มานพ แสงอินทร์ พนักงานสอบสวน สภ.วังน้ำคู้ เปิดเผยว่า เบื้องต้นได้สอบปากคำ พระศักดา กุลณวัฒโณ ผู้ขับรถยนต์ที่ประสบเหตุ ให้การว่า ได้ยืมรถยนต์ของพ่อเพื่อนขับออกจากวัดยางเอน เพื่อจะไปทำธุระที่วัดกำแพงมณี แต่ได้มาเกิดอุบัติเหตุทำให้มีผู้เสียชีวิตดังกล่าวเสียก่อน ส่วนเสื้อใน ถุงยาง วิกผม ที่พบเจอในรถนั้นเป็นของนายสุรัชช์ ขันตี ลูกศิษย์ ไม่ใช่ของพระทั้ง 2รูป

นอกจากนี้ เจ้าหน้าที่ตำรวจได้ให้แพทย์ตรวจร่างกายเพื่อหาปริมาณแอลกอฮอล์ของพระศักดา ว่ามีอาการมึนเมาขณะขับรถหรือไม่ ต้องรอผลตรวจที่แน่ชัดอีกครั้ง ส่วนเรื่องทางคดีความต้องรอให้พระศักดา อาการดีขึ้นเสียก่อน ถ้าพบว่าผิดจริงก็ต้องดำเนินคดีในข้อหาขับรถประมาท ทำให้ผู้อื่นถึงแก่ความตาย และทำให้ทรัพย์สินผู้อื่นเสียหาย

ด้าน ผอ.สำนักงานพระพุทธศาสนา จว.พิษณุโลก กล่าวว่า ถ้าหากผลการสอบสวนของเจ้าหน้าที่ตำรวจออกมาแล้ว พบว่าพระสงฆ์รูปนี้ขับรถยนต์จริงก็ถือว่าผิดพระธรรมวินัย เพราะกฎระเบียบวินัยที่ทางมหาเถรสมาคมได้บัญญัติไว้ห้ามพระภิกษุขับขี่รถยนต์ หรือรถจักรยานยนต์ ถือว่าผิดกิจของสงฆ์