เรื่องจริงเมื่อลูกป่วยเป็นเนื้องอกในสมอง พร้อมวิธีลดโอกาสการเกิดโรค!!!

ระยะที่สอง : เริ่มอาเจียนหนักขึ้น 6-10 ครั้งต่อวัน กินได้น้อยลง ยืนขาสั่น นั่งไม่มั่นคง ( ระยะนี้น้องนอน รพ. 3 คืน หมอบอกไวรัสลงกระเพาะ )

ระยะที่สาม : อาเจียนหนัก แม้จะไม่ได้กินอะไรก็ตาม นับครั้งไม่ได้ อ่อนเพลียไม่มีแรง ตัวอ่อนปวกเปียก แขนล้า ขาขยับไม่ได้ กินไม่ได้ กระหม่อมเริ่มโป่งบวมผิดสังเกต นอนอย่างเดียวและซึมลง

คุณแม่จึงพาส่ง รพ. บอกรายละเอียดกับคุณหมอ หมอเลยตัดสินใจส่งเข้า x-rey CT Brain จึงพบว่ามีก้อนเนื้องอกอยู่ และใกล้จุดสำคัญคือแกนสมอง ซึ่งมีความเสี่ยงหากผ่าตัด แต่ไม่สามารถเลี่ยงได้ คณะแพทย์เลยส่งตัวต่อให้ รพ.จังหวัด พอถึงแพทย์สังเกตอาการ คุยกับแม่ แล้วนัดผ่าตัดใส่สายระบายทันที เพราะเกิดน้ำคลั่งในสมอง เพราะเนื้องอกมันใหญ่อุดตันการไหลเวียนของน้ำเลี้ยงในสมอง นั่นคือสาเหตุที่มีอาการดังกล่าว

ข้อสันนิษฐาน
ชอบเล่นโทรศัพท์ใกล้ลูก ชาร์จแบตแล้ววางไว้บนหัวที่นอนใกล้หัวลูก ดึกดื่นไม่นอน ลูกหลับยังเล่น รังสีคลื่นสัญญาน ยิ่งแรงยิ่งอันตราย มีผลต่อสมองลูก เพราะกระโหลกบางๆ ไม่สามารถกันรังสีและคลื่นความถึ่ได้ ขนาดกับผู่ใหญ่ยังอันตราย นับประสาอะไรกับลูกน้อยของเรา มันนำมาซึ่งโรค หรืออาการหลายๆอย่าง อาจจะไม่ได้รุนแรงมากนัก แต่ไม่ดีต่อเด็ก เช่น พัฒนาการทางด้านสมองช้า สมาธิสั้น เบลอ ปวดหัวได้เช่นกัน”

ศาสตราจารย์เกียรติคุณ แพทย์หญิง พวงทอง ไกรพิบูลย์ วว.รังสีรักษา และเวชศาสตร์นิวเคลียร์ ปัจจุบันยังไม่ทราบสาเหตุที่แน่ชัดของการเกิดเนื้องอกสมองในเด็ก แต่จากการศึกษาพบว่า ปัจจัยเหล่านี้เป็นปัจจัยเสี่ยงที่ทำให้เกิดโรคเนื้องอกสมองในเด็กได้ คือ

1.ความผิดปกติทางโครโมโซมของตัวเด็กเอง เพราะพบเนื้องอกสมองในเด็กกลุ่มอาการดาวน์ (Down’s syndrome) ได้สูงกว่าเด็กที่ไม่มีความผิดปกติทางโครโมโซม
2.เด็กมีประวัติเคยได้รับรังสีปริมาณสูงที่บริเวณศีรษะ โดยเฉพาะรังสีเอกซ์ (X-ray) เช่น การเคยได้รับรังสีรักษาบริเวณสมอง
3.เด็กมีประวัติเคยได้รับยาเคมีบำบัด
4.เด็กมีการติดเชื้อโรคบางชนิด
5.มีประวัติมารดาได้รับสารเคมีระหว่างตั้งครรภ์เช่น ยาฆ่าแมลง
6.มารดาติดเชื้อบางชนิดขณะตั้งครรภ์
7.มารดาขาดสารอาหารช่วงตั้งครรภ์
8.มารดา สูบบุหรี่ ดื่มเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ หรือติดสารเสพติดช่วงตั้งครรภ์
9.มารดาได้รับยารักษาโรคบางชนิดในขณะตั้งครรภ์ (เป็นข้อสันนิษฐาน ไม่สามารถระบุตัวยาที่แน่ชัดได้)

เนื่องจากโรคเนื้องอกสมองในเด็ก เป็นโรค ที่ยังไม่ทราบสาเหตุ ดังนั้นจึงยังไม่สามารถป้องกันเนื้องอกสมองในเด็กได้ แต่อย่างไรก็ตาม ควรหลีกเลี่ยงปัจจัยเสี่ยง โดยการดูแลตนเองของมารดาในช่วงก่อนและระหว่างตั้งครรภ์ ก็สามารถช่วยลดโอกาสเกิดเนื้องอกสมองของลูกได้ ดังนี้

1.กินอาหารมีประโยชน์ 5 หมู่ให้ครบถ้วนในทุกวัน
2.หลีกเลี่ยงสารเคมีและยาที่ไม่จำเป็น
3.ไม่สูบบุหรี่
4.ไม่ดื่มเครื่องดื่มแอลกอฮอล์
5.ไม่บริโภคสิ่งเสพติด ยาเสพติด

คุณแม่ยิว “หวังว่าเรื่องราวของน้องจะมีประโยชน์ต่อคุณพ่อคุณแม่นะคะ…ขอให้ลูกน้อยของพ่อแม่ทุกคน มีสุขภาพร่างกายแข็งแรง เป็นเด็กดีนะคะ ขอบคุณทุกๆกำลังใจ ‪เราจะผ่านมันไปให้ได้ค่ะ‬“

สุดท้ายข้อควรระวัง

1. ช่วงลูกหัดนั่ง เกาะยืน หรือเดิน ควรอยู่ใกล้ๆ ดูแลอย่างใกล้ชิด แต่ไม่ใช่ว่าจะห้ามหรือห่วงเกินไปนะคะ อยู่ใกล้ๆเขาคอยระวัง ก็พอค่ะ
2. การเล่นโทรศัพท์ ถ้าใช้งานเป็นเวลานานในการทำงาน ควรเล่นให้ห่างจากลูก สัก 2-3 เมตร ลูกสามารถจับได้เล่นได้ แต่อย่านานนะคะ ระวังเสียสายตาด้วย มันจะมีผลตอนโต ยิ่งตอนลูกหลับห้ามเลยค่ะ ห้ามนำเข้าใกล้ เพราะคลื่นและรังสีและไปรบกวนสมองในการสร้างเซลล์และพัฒนาการทางด้านสมองค่ะ

แอดมินและเพื่อนๆสมาชิก “HerKid รวมพลคนเห่อลูก” ขอเป็นกำลังใจให้คุณแม่ยิวกับน้องอาร์ผ่านเรื่องราวที่เลวร้ายนี้ไปได้ บางครั้งคุณแม่อาจท้อบ้าง แต่เชื่อเถอะว่า เมื่อเมฆฝนพายุผ่านไป ความสดใสของเช้าวันใหม่จะเข้ามา ขอให้น้องหายไวไวและผ่านการผ่าตัดครั้งนี้ไปได้ด้วยดีนะคะ^^

เรื่องจริงจาก : HerKid รวมพลคนเห่อลูก