เกย์เวลาไปเที่ยวผับทำไมต้องขึ้นไปเต้นบนเวทีด้วย

คือไปเที่ยวผับทุกครั้งคือจะต้องเจอเกย์หลายนางมากที่เต้นบนพื้นธรรมดาไม่ได้ จะต้องไปเต้นโชว์หรือแสดงตัวบนเวทีตลอด ทำไมพวกเค้าถึงมีความมั่นใจอะไรมากขนาดนี้

เป็นคนที่ชอบไป ไนท์คลับ มาก โดยเฉพาะ สีลม ซอย 2 และเป็นคนที่ชอบขึ้นเวทีเอามากๆ ด้วย

การไป ไนท์คลับ จุดประสงค์ของเกย์ ส่วนใหญ่ คือการได้ ผช.​ ไม่ใช่แค่เกย์หรอก ชายแท้ หญิงแท้ ที่ไปเที่ยวกลางคืน จุดประสงค์ส่วนใหญ่ก็หาคู่เนี่ยแหล่ะ น้อยมากที่จะไปเพื่อสนุกอย่างเดียว แย่หน่อยก็โดนเพื่อนบังคับไป

แน่นอนต้องไปดื่มแอลกอฮอล อยู่แล้ว ธรรมชาติของเกย์ คือ เวลาเมาเนี่ยจะชอบเต้น ชอบคุย ชอบพบปะ ผู้คน (อันนี้ Based จาก ซอย 2 ละกัน เพราะไม่เคยไปแถว อตก.​ รัชดา เลยไม่รู้ว่าที่โน่น เขาเป็นอย่างไรกัน) เวลาแอลกอฮอลเข้าสู่สายเลือด เหมือนกับโดนกระตุ้นสัญชาตญาณดิบ กระตุ้น พลังงาน ความ เลอค่า ความเป็นหญิง จากด้านใน บางคน มองธรรมดาแทบไม่รู้ว่า เป็นเกย์ แต่เมื่อได้แอลกอฮอลเข้าไป ออกสเตปแรกมาก็ ต้องตั้งคำถามเลยว่า "ตีฟาร่า ขึ้นโชว์มั้ย?" นั่นก็เพราะว่า เกย์ชอบความบันเทิง (Gay ความจริงแล้ว แปลว่า มีความสุข)

ในสีลม ซอย 2 จะมี ไนท์คลับ อยู่ประมาณ 5 - 6 แห่ง แต่ที่เป็นที่รู้จัก สุด คือ DJ Station ซึ่ง DJ Station เนี่ย จะมีเวที ขนาด 3 x 1.5 เมตร สำหรับการโชว์ คาบาเร่ ตอนประมาณ 5 ทุ่ม - เที่ยงคืน หลังจาก โชว์จบ พี่ๆ พนักงานเขาก็จะมาปูพรม กันเวทีเลอะเทอะ แรกๆ จะยังไม่มีคนขึ้นไปเต้นหรอก จนสักพักแหล่ะ จะมีคนหนึ่งคน หรือ กลุ่มหนึ่งขึ้นไปเต้นเปิดฟลอร์ เมื่อใดที่ได้ยินเพลงประจำตัว หรือ เรียกกันว่า "Anthem"

ส่วนใหญ่จะเป็นเพลง Titanium, Timber, Work Bitch หรือไม่ก็ Starships จากเวที ที่ว่างเปล่า ก็เต็มไปด้วย นักเต้นกว่า 40 ชีวิต นี่ยังสงสัยอยู่ว่า เวทีขนาด 4.5 ตารางเมตร สามารถจุคนได้มากขนาดนั้น โดยไม่พังลงมาเลยหรือ ซึ่งในบรรดานักเต้นกว่า 40 ชีวิตนี่ เขาจะมี Pattern นะ ใครที่หุ่นดี มีกล้าม มี 6 แพ็ก มักจะได้เต้นข้างหน้า ส่วนพวกมากับแฟน มีคู่ หรือ มาเป็นกลุ่มจะอยู่กลางๆ ส่วนคนที่เต้นหลังเวที คือ พวกมาช้า และไม่กล้าเต้น

เรามาวิเคราะห์ ตำแหน่ง 3 ตำแหน่งนี้กัน

1. ตำแหน่งหน้าๆ พวกหุ่นดี พวกนี้เขาจะเต้นอย่างเดียว จะไม่ค่อยมองหาเหยือ หรือถ้ามองก็มองคนที่ด้านล่าง ยิ้มเป็นบางจังหวะ ถ้าอีกฝ่ายยิ้มตอบกลับ นั่นคือเขาสนใจ และครึ่งชั่วโมงต่อมา คนจะด้านล่างจะขึ้นมาหา และจูบกันอย่างบ้าคลั่ง (อันนี้ เป็นการหาคู่อย่าง มีชั้นเชิง)

2. พวกกลางเวที พวกที่มากับแฟน หรือพาคู่เดตมาก็จะเต้นกันแบบเบาๆ สีกันบ้างเบียดกันบ้างพอเป็นพิธี แต่ส่วนใหญ่จะเต้นไป จูบกันไปมากกว่า พวกที่มากลับกลุ่มเพื่อน ก็จะเต้นกินพื้นที่กันมาก กลุ่มนี้จะโดน กลุ่มอื่นๆ เกลียด เพราะโวยวาย เล่นใหญ่ และดุดัน ใครเต้นดี จากกลุ่มนี้จะโดนดึงไปหน้าเวที บ้างโชคดีก็จะได้คู่ด้วย ส่วนคนในกลุ่มคนไหน ดึกแล้ว ยังหาใครไม่ได้ ก็จะยังเต้นกัน เบื่อก็ลงไปข้างล่างด้วยควมอิจฉา ริษยา เพื่อนที่ได้ คู่

3. กลุ่มหลังเวที ส่วนใหญ่ขึ้นมาเพราะ โดนเพื่อนลากมา แต่ยังเมาไม่มาก จะขวยเขิน ไม่กล้าเต้นมาก แต่บางครั้งก็จะ Form กลุ่มขึ้นมา อย่างน่าอัศจรรย์ แล้วเปลียนตัวเองจากดาวเต้นหลังเวที มาอยู่ข้างหน้า เบียดเอาพวกหุ่นดีไปอยู่ข้างๆ เวที (น่ากลัวมาก) พวกนี้ ถ้าไม่ฉายแวว ไม่นานก็ต้องเบื่อและเดินลงเวที ไปจิก ข้างล่างแทน

จะเห็นว่า การขึ้นไปเต้นบนเวทีนั้น มีหลากหลายเหตุผลเหลือเกิน บ้างไปเพื่อหาคู่บ้างไป เพราะสนุกจริงๆ บ้างก็ไปแบบ งงๆ ไปโดยไม่ได้มีจุดประสงค์อะไรเลย การได้เต้นบนเวที เหมือนการได้ ปลดปล่อยพลังงานจากด้านในออกมา บางคนอยากเต้นมาก แต่ไม่เคยได้มีโอกาสเต้น เมื่อได้ออกสเตปบนเวที เหมือนกับว่า จิตวิญญาณนักเต้นได้เข้าร่าง บางคนนี่ นึกว่า Beyonce ตอนขึ้นแสดง Halftime show ของ Super Bowl ความส่ายเอว ความย่อขา ความ Twerk ความแหกขา มาหมด เรียกได้ว่า ถ้าเปิดโรงเรียนสอนเต้นขึ้นมา จะติดต่อ คนเหล่านี้ไปสอน แต่เหตุผลที่หลักสุด นอกจากการหาคู่ คือการได้ ปลดปล่อย การได้มีความสุขกับเพื่อน การได้โลดแล่นไปในคืนที่เต็มไปด้วยจังหวะดนตรีและแสงสีที่สวยงาม

จบ.