Cindy James Case ฆาตกรรมหรือความเจ็บป่วยทางจิต?

 

Cindy James Case ฆาตกรรมหรือความเจ็บป่วยทางจิต?



คดี กรณีของเจมส์ ซินดี้ อาจดูเหมือนเป็นคดีฆาตกรรม หากกระนั้นในด้านความแปลกประหลาดแล้ว
ถือว่าเป็นคดีที่น่าขนลุก พิศวง และลึกลับไม่แพ้กับคดีอื่นๆ ที่คุณเคยอ่านมาก็ว่าได้
 
 
Cindy James Case

 
ในเดือนมิถุนายน 1989 ในพื้นที่ที่เงียบสงบแห่งหนึ่งในแวนคูเวอร์ บริติชโคลัมเบีย ชานเมืองของริชมอนด์
ก็เกิดคดีที่น่าตกใจ เมื่อมีการพบศพของพยาบาลอายุ 44 ปี ชื่อซินดี้ เจมส์นอนตายอยู่ในลานบ้านร้าง เธอถูกวางยาและรัดคอ
และมือและเท้าของเธอถูกมัดด้านหลังของเธอ แต่จากการชันสูตรตำรวจม้าแคนาดาเชื่อว่าเป็นการฆ่าตัวตายมากกว่า
ซึ่งผลการสรุปนี้ สร้างความไม่พอใจแก่ครอบครัวเธอเป็นอันมาก

ย้อนกลับไปเจ็ดปีก่อนที่เธอจะเสียชีวิต ก็มีเหตุประหลาดเกิดขึ้นกับซินดิ้มาโดยตลอด มีรายงานกว่าร้อยเหตุการณ์ที่เธออ้างว่า
ถูกคนลึกลับล่วงละเมิดความเป็นส่วนตัวของเธอ และเธอยังถูกทำร้ายทารุณหลายครั้งถึงขั้นโดนมีดปักที่ฝ่ามือของเธอ
จนเธอเกิดอาการหวาดผวาจนไม่ทำการทำงานอะไร

อย่างไรก็ตาม เมื่อสอบสวนเชิงลึกก็ว่าเรื่องทั้งหมดเกิดขึ้นจากการคิดไปเองของซินดี้ ที่เธอคิดเองว่าโดนรังครวญโดยคนลึกลับ
เหตุการณ์ต่างๆ นั้นเกิดขึ้นเพราะเธอเอง ไม่ว่าจะเป็นการทำร้ายตนเองแล้วอ้างว่าโดยคนลึกลับทำร้าย เขียนจดหมายขึ้นมาเอง
พูดง่ายๆ เธอเป็นบ้าถึงขั้นมีอาการหน้าเป็นห่วง

เรื่องราวมันเริ่มต้นขึ้นหลัง 4 เดือนหลังจากที่เธอทิ้งสามีของเธอไป ซินดี้ได้อ้างว่าเธอถูกคนลึกลับป่วนและล่วงละเมิดชีวิต
ความเป็นส่วนตัวของเธอ เป็นต้นว่า เธอถูกสะกดร้อย มีเสียงโทรศัพท์ดังขึ้นมา เมื่อเธอรับปรากฏว่าปลายสายโทรศัพท์ดันเงียบ
ไม่เสียงใครพูดเลยแม้แต่น้อย ตอนกลางคืนเธอได้ยินเสียงไฟระเบียงของเธอถูกทุบ และสายโทรศัพท์ถูกตัด อีกทั้งยังมี
จดหมายแปลกประหลาดวางบนบันไดหน้าประตูบ้านของเธอ

แอกเนส เพื่อนของซินดีได้ยืนยันเรื่องนี้ว่าเกิดขึ้นจริง ดูเหมือนว่าจะมีใครบางคนกำลังพยายามทำให้ซินดี้ตกใจช็อกตาย
อีกทั้งเหตุการณ์ป่วนชัวิตของซินดี้เหมือนจะรุนแรงขึ้นเรื่อยๆ คืนหนึ่งขณะที่เธอหไปบ้านของซินดี้ เมื่อไปถึงประตูหน้าบ้าน
และเคาะประตูปรากฏว่าไม่มีใครตอบรับ ตอนแรกก็นึกว่าเธอกำลังอาบน้ำ แต่ขณะที่เธอมองหน้าต่างข้างนอกไปที่ตัวบ้าน
ก็พบซินดี้กำลังหมอบลง โดยมีถุงเท้าไนล่อนถูกมัดจนแน่น เมื่อทำการช่วยเหลือซินดี้อ้างว่าขณะที่เธอออกไปข้างนอก
ไปที่โรงรถก็มีใครบางคนคว้าเธอจากด้านหลัง เธอไม่เห็นใบหน้าชัดเจน รู้แต่ว่าเขาสวมรองเท้าผ้าใบสีขาว

เมื่อถูกคุกคามหนักขึ้นเรื่อยๆ ซินดี้จึงย้ายไปบ้านใหม่ทาสีรถของเธอและเปลี่ยนนามสกุลของเธอ นอกจากนี้ยังจ้างนักสืบ
Ozzie Kaban ทำการตรวจสอบ พอเรื่องไปถึงมือตำรวจก็พบเรื่องแปลกประหลาดมากมาย โดยเฉพาะการสอบปากคำ
ของซินดี้ที่เมื่อถามเรื่องชีวิตคู่ซินดี้ก็เหมือนพยายามหลีกเลี่ยงและปกปิดข้อมูล และไม่ให้ความร่วมมือกับตำรวจมากนัก
ซึ่งแม่ของซินดี้คิดว่าสาเหตุที่ซินดี้ไม่เต็มใจให้ข้อมูลกับตำรวจเพราะเชื่อว่าลูกสาวคงโดนข่มขู่ หากเธอเล่ารายละเอียด
ให้คนอื่นฟัง ครอบครัวของเธออาจถูกฆ่าตาย

แม้จะเปลี่ยนบ้าน เปลี่ยนนามสกุลแต่ดูเหมือนการคุกคามของซินดี้ยังไม่จบสักสิ้น คืนหนึ่งนักสืบได้ยินเสียงแปลกๆ ของวิทยุ
ปลายสายเป็นของซินดี้ เมื่อเขาเดินตรงไปบ้านของเธอ เขาก็พบว่าบ้านถูกล็อก และไม่มีใครมาตอบรับ เมื่อเขาเดินไปรอบๆบ้าน
มองผ่านหน้าต่างก็พบซินดี้นอนอยู่บนพื้น และมีมีดปอกผลไม้เสียบทะลุที่มือของเธอจนเลือดไหล เธอถูกส่งไปยังโรงพยาบาล
พอได้สติซินดี้ให้การว่าเธอถูกทำร้ายและนอกจากนี้แขนของเธอก็โดนเข็มแหลมจิ้ม

ตำรวจยังคงสับสนกับคำให้การของซินดี้ ที่เธอมักให้การที่ขัดแย้ง ไม่ว่าจะเป็นจำนวนผู้ต้องสังสัยที่ไม่แน่ชัดว่ามีกี่คน
บางคนก็ให้การว่ามีผู้ต้องสงสัยหนึ่งคน บางครั้งก็บอกว่ามีสองคน บางครั้งก็มีสาม ทำให้ตำรวจไม่สามารถหาตัวผู้ต้องสงสัยได้ การคุกคามยังคงมีต่อเรื่อยๆ จนตำรวจคต้องมานั่งเฝ้าระวังบ้านของเธอ 24 ชั่วโมง ซึ่งใช้จำนวนถึง 10-4 คนเลยทีเดียว

 
นับวันสภาพจิตใจของซินดี้เริ่มย่ำแย่ การล่วงละเมิดเริ่มหนักข้อขึ้น  ซินดี้อ้างว่าเธอถูกทำร้าน บางคนพบเธอมึน งง และกึ่งสับสน
และมีสติอยู่ในคูน้ำหกไมล์ห่างจากบ้านเธอ ที่ตัวเอมีบาดแผลและรอยฟกช้ำเหมือนมีใครทำร้ายเธอ นอกจากนี้ยังมีถุงน่องไนลอนสีดำมันแน่นรอบคอเธอ หากแต่เธอกลับจำเรื่องที่เกิดขึ้นไม่ได้

พ่อแม่ของซินดี้เองก็เป็นห่วง พวกเขาก็พักอยู่กับลูกสาวของพวกเขาด้วย และในคืนหนึ่งพวกเขาก็ตื่นขึ้นเนื่องจากได้ยินเสียงดัง
และพวกเขาก็พบว่าห้องใต้ดินเกิดเพลิงไหม้และโทรศัพท์ถูกตัด พ่อของซินดี้ออกจากบ้านเพื่อแจ้งเตือนเพื่อนบ้านและขอให้
โทรเรียกรถดับเพลิงให้มาดับไฟได้ทันเวลา

อย่างไรก็ตาม เรื่องของซินดีที่เหมือนภาพยนตร์สยองขวัญเกรดบีนั้นจากการสอบสวนตำรวจพบว่าเรื่องทั้งหมดนั้นเป็นการสร้างขึ้นมาเองของซินดี้ ไม่ว่าจะเป็นจดหมายที่เธอเขียนตัวเอง หรือค่าโทรศัพท์ที่โทรเข้าบ้านตัวเอง นอกจากนี้ยังมีหลักฐานมากมายที่ผิดปกติไม่ตรงกับคำให้การของซินดี้ ไม่ว่าจะเป็นไม่มีร้องรอยของการปีนหน้าต่าง สุนัขของเธอไม่เห่าเลยในขณะที่มีคนแปลกหน้าเข้ามาบ้านซินดี้ ทำให้เชื่อว่าธอมีอาการทางจิตที่คิดเอาเองว่ามีคนโรคจิตทำร้าย เธอถูกส่งเข้าโรงเยาบาล ซึ่งนักจิตเวชท้องถิ่นเชื่อว่าเธอมีอาการประสาทและมีความคิดอยากจะฆ่าตัวตาย เนื่องจากความเครียด

เรื่องราวเหมือนจบแค่นั้น ซินดี้เข้าโรงพยาบาลเรื่องรักษาตัว และต่อมาเธอก็ออกจากโรงพยาบาล ซึ่งดูเหมือนเธอหายดีแล้ว
และครอบครัวของเธอก็เชื่อเล่นกันว่าเธอเป็นปกติไม่ได้บ้า

 

หากแต่แล้ววันที่ 25 พฤษภาคม 1989 6 ปีและ7 เดือนหลังจากที่โทรศัพท์ขู่แรกของซินดี้เจมส์หายไป  ในวันเดียวกันรถของเธอถูกพบในลานจอดรถบริเวณใกล้เคียง กระเป๋าสตางค์ยังคงอยู่ในรถและมีรอยเลือดอยู่บนประตูด้านคนขับ สองสัปดาห์ต่อมาร่างของเธอถูกพบที่บ้านร้าง มันดูเหมือนซินดี้เจมส์ถูกฆ่าตายอย่างไร้ความปราณี มือและเท้าของเธอถูกมัดเข้าด้วยกันด้านหลังของเธอ ถุงน่องไนลอนสีดำถูกผูกติดอยู่แน่นรอบคอของเธอ แต่การชันสูตรศพเปิดเผยว่าซินดี้เสียชีวิตจากยาเกินขนาดของมอร์ฟีนและยาเสพติดอื่น

ตำรวจจึงสรุปว่าซินดี้ได้ฆ่าตัวตาย เนื่องจากมีอาการจิตประสาทมากก่อนหน้านี้แล้ว ซึ่งเธอน่าจะไม่หายดี และพยายามทำร้ายตัวเองอีกรอบ หากแต่คราวนี้เธอเล่นหนักไปหน่อยจนเสียชีวิตในที่สุด แต่พ่อแม่ของเธอไม่เชื่อว่าเป็นการฆ่าตัวตาย พ่อของเธอเชื่อว่าตำรวจใช้ความรู้สึกเก่าที่ซินดีเคยเป็นโรคประสาทมาก่อน ซึ่งเขาเชื่อว่าคดีนี้เป็นการฆาตกรรม แต่มันจะเกี่ยวข้องกับคนแปลกหน้าที่ป่วนชีวิตของซินดี้หรือเปล่านั้นก็ไม่ทราบได้

ต่อมาเจ้าหน้าที่ประกาศว่ากรณีตายของซินดี้ยังไม่สามารถสรุปได้ว่าเป็นฆ่าตัวตายด้วยอุบัติเหตุหรือฆาตกรรม
และปัจจุบันคดียังคงดำมืดต่อไป