อาบัติพระที่โยมควรรู้
เพจ ธรรมะวันละคำสองคำ ได้เพิ่มรูปภาพใหม่ 157 ภาพลงในอัลบั้ม: อาบัติพระที่โยมควรรู้
ต้นบัญญัติแรกของวินัย อย่างไรก็ดี เมื่อมีกฎก็ย่อมมีคนพยายามที่จะหลีกเลี่ยง กรณี “เลี่ยงบาลี” จึงเกิดขึ้นอย่างโลดโผน ตัวอย่างเช่น การร่วมเพศกับลิงตัวเมียซึ่งเป็นเหตุการณ์ที่พระรูปหนึ่งเกิดอารมณ์จนทนไม่ไหวจึงนำอาหารมาล่อลิงตัวเมียเพื่อแลกกับการมีสัมพันธ์ด้วย เพื่อนพระมาเห็นเข้าจึงได้ตำหนิติเตียน แต่พระรูปดังกล่าวก็อ้างว่า บัญญัตินั้นห้ามเฉพาะเสพกามกับผู้หญิง ความรู้ถึงพุทธะ จนถูกสอบสวนในที่ประชุมสงฆ์และในที่สุดก็ถูกตั้งเป็นอนุบัญญัติว่าห้ามเสพกามแม้กับเดรัจฉานตัวเมีย
เพศทั้ง 4 ที่สัมพันธ์อยู่กับสรรพสิ่งทั้งสาม ด้วยความเชื่อที่ว่าสรรพสิ่งที่มีชีวิตเหล่านั้นมีเพศกำกับอยู่ เพศทั้ง 4 ได้แก่ เพศหญิง เพศชาย กระเทย (บัณเฑาะว์) และผู้ที่มีสองเพศในร่างเดียว (อุภโตพยัญชนก)
ส่วนปากทางสำหรับการสอดใส่ทั้งสาม นั่นคือ ทางประตูหลัง, ทวารหนัก (วัจจมรรค) ช่องคลอด, ปากทางปัสสาวะ,ทวารเบา (ปัสสาวมรรค) และทางช่องปาก (มุขมรรค)
การสำเร็จความใคร่โดยการปล่อยน้ำอสุจิโดยตั้งใจ หรือที่เรียกวา “ปล่อยสุกกะ” นั้นแม้จะไม่ใช่เรื่องร้ายแรกมาก แต่ความผิดก็อยู่ระดับอาบัติสังฆาทิเสส รองลงมาจากอาบัติปาราชิกเลยทีเดียว ต้นบัญญัติเกิดขึ้นเพราะพระชื่อ เสยยะสกะ ซูบผอมจนพระตัวแสบที่ชื่อ พระอุทายี
การปล่อยสุกกะนั้นยังมีการนิยามอยากละเอียดลออว่า การช่วยตัวเองนั้น คือการช่วยตัวเองด้วยจินตนาการภายใน หรือจากการพบเห็นจากที่ตามองเห็น หรือกระทั่งเมื่อแกว่งให้ไหวในอากาศ การกระทำเมื่อเกิดความกำหนัด เมื่อปวดอุจจาระ เมื่อปวดปัสสาวะ เมื่อต้องลม และเมื่อถูกบุ้งขน (อ.ชาญณรงค์ ชี้ว่า น่าจะหมายถึงตอนที่ถูกแล้วคัน ก็ต้องเกา) นอกจากนั้นยังมีเหตุผลที่ทำให้เกิดการช่วยตัวเองอย่างอื่นเช่น เพื่อหายจากโรค เพื่อความสุขเพื่อเป็นยา เพื่อให้ทาน? เพื่อบูชายัญ เพื่อหวังไปสวรรค์ เพื่อหวังให้เป็นเชื้อพันธุ์ (พืช) เพื่อทดลอง และเพื่อความสนุก ยังมีการจำแนกอสุจิเป็นลักษณะต่างๆ เช่น สีเขียว, เหลือง แดง, ขาว, สีเหมือนเปรียง, สีเหมือนน้ำท่า, สีเหมือนน้ำมัน, สีเหมือนนมสด, สีเหมือนนมส้ม และสีเหมือนเนยใส [
การเลี่ยงบาลีย่อมมีอยู่หลายกรณีที่ตั้งใจทำสุกกะเคลื่อนเช่น ภิกษุอาบน้ำร้อน, ทายาแผลบริเวณเครื่องเพศ, เกาอัณฑะ, ระหว่างเดิน (เข้าใจว่าจะเสียดสีกับจีวร), จับหนังหุ้มปลายเพื่อปัสสาวะ, ผิงเกลียวท้องในเรือนไฟ (เข้าใจว่าอบอุ่นร่างกายจนสบายตัว), เสียดสีกับขาของตัวเอง, ให้สามเณรจับเครื่องเพศ, จับเครื่องเพศของสามเณรจนเกิดอารมณ์, กำอยู่ในมือ, แอ่นอยู่ในอากาศ, ดัดกาย, เพ่งอวัยวะเพศหญิงจนหลั่ง, สอดเข้าช่องดาล, เสียดสีกับไม้, อาบน้ำทวนกระแส, เล่นโคลน, เล่นน้ำ, เล่นไถลก้น, ลุยสระบัว, สอดเข้าในทราย, สอดเข้าในตม, ตักน้ำรด, สีบนที่นอน ละสีกับนิ้วมือ ทั้งหมดนี้เป็นสังฆาทิเสส
มีอีกมากมาย แวะชมได้ที่ https://www.facebook.com/media/set/?vanity=1518640545018879&set=a.2325092037707055








