ฉีดโบหน้าผาก ลดริ้วรอยเหี่ยวย่น ก่อนฉีดต้องรู้อะไรบ้าง?
ฉีดโบหน้าผาก ลดริ้วรอยเหี่ยวย่น ก่อนฉีดต้องรู้อะไรบ้าง?
เมื่ออายุเพิ่มมากขึ้น ปัญหาริ้วรอยบนผิวหน้ากลายเป็นสิ่งที่หลายคนหลีกเลี่ยงไม่ได้ โดยเฉพาะริ้วรอยบริเวณหน้าผาก ที่สามารถเห็นได้อย่างชัดเจน ซึ่งส่งผลให้ใบหน้าดูมีอายุและสูญเสียความมั่นใจ วิธีหนึ่งที่ได้รับความนิยมในการแก้ไขปัญหานี้ คือ การฉีดโบหน้าผาก เพื่อช่วยลดเลือนริ้วรอยอย่างมีประสิทธิภาพและรวดเร็ว
การฉีดโบหน้าผาก คืออะไร?
การฉีดโบหน้าผาก คือ การฉีดสารที่ออกฤทธิ์ในการคลายกล้ามเนื้อ โดยสารที่ใช้คือ โบทูลินัม ท็อกซิน (Botulinum Toxin) ซึ่งเป็นสารสกัดจากแบคทีเรีย Clostridium Botulinum สารนี้ทำหน้าที่ยับยั้งการส่งผ่านสัญญาณจากเส้นประสาทไปยังกล้ามเนื้อ ส่งผลให้กล้ามเนื้อคลายตัวชั่วคราว เมื่อกล้ามเนื้อไม่สามารถหดตัวได้ ริ้วรอยบนหน้าผากที่เกิดจากการเคลื่อนไหวจะลดลง ทำให้ผิวเรียบเนียนและดูอ่อนเยาว์ขึ้น
การฉีดโบหน้าผาก ทำงานอย่างไร?
การฉีดโบหน้าผากใช้ สารโบทูลินัม ท็อกซิน (Botulinum Toxin) ซึ่งเป็นสารที่ออกฤทธิ์ต่อระบบประสาทและกล้ามเนื้อ โดยมีหลักการทำงาน ดังนี้
- การฉีดโบหน้าผาก ช่วยยับยั้งการส่งสัญญาณจากเส้นประสาทไปยังกล้ามเนื้อ
เมื่อฉีดโบทูลินัม ท็อกซินเข้าไปในชั้นกล้ามเนื้อ สารนี้จะทำหน้าที่ยับยั้งการปล่อยสารสื่อประสาทที่เรียกว่า อะเซทิลโคลีน (Acetylcholine) ซึ่งเป็นตัวกระตุ้นให้กล้ามเนื้อหดตัว - การฉีดโบหน้าผาก ทำให้กล้ามเนื้อคลายตัวชั่วคราว
เมื่อสารอะเซทิลโคลีนถูกยับยั้ง กล้ามเนื้อในบริเวณที่ฉีดจะไม่สามารถหดตัวได้ตามปกติ ส่งผลให้กล้ามเนื้อคลายตัว และริ้วรอยที่เกิดจากการเคลื่อนไหวของกล้ามเนื้อลดลงอย่างชัดเจน - การฉีดโบหน้าผาก ช่วยลดเลือนริ้วรอยและป้องกันการเกิดรอยใหม่
การคลายตัวของกล้ามเนื้อจะทำให้ผิวบริเวณหน้าผากเรียบเนียนขึ้น ลดเลือนริ้วรอยที่มีอยู่เดิม และป้องกันการเกิดริ้วรอยใหม่ที่เกิดจากการแสดงสีหน้าในอนาคต - การฉีดโบหน้าผากให้ผลลัพธ์เป็นธรรมชาติ
หากฉีดในปริมาณที่เหมาะสมและด้วยเทคนิคที่ถูกต้อง กล้ามเนื้อที่ฉีดจะดูผ่อนคลายโดยไม่แข็งหรือตึงจนเกินไป ทำให้ผลลัพธ์ออกมาดูเป็นธรรมชาติ
ฉีดโบหน้าผาก ผลลัพธ์อยู่ได้นานไหม?
ฉีดโบหน้าผากเริ่มเห็นผลใน 3-4 วัน หลังจากฉีด โดยริ้วรอยจะค่อย ๆ จางลง โดยผลลัพธ์จะเริ่มชัดเจนใน 1-2 สัปดาห์ และผลลัพธ์จะคงอยู่ประมาณ 4-6 เดือน และจะสลายไปเองตามธรรมชาติ การฉีดโบหน้าผากจำเป็นต้องทำโดยแพทย์ผู้เชี่ยวชาญ เพื่อให้ได้ผลลัพธ์ที่ปลอดภัยและเหมาะสมกับโครงหน้าของแต่ละบุคคล
ฉีดโบหน้าผาก มีข้อดีอะไรบ้าง ?
- ฉีดโบหน้าผาก ช่วยลดเลือนริ้วรอยอย่างตรงจุด
การฉีดโบหน้าผากช่วยแก้ปัญหาริ้วรอยบริเวณหน้าผาก หางตา และรอยขมวดคิ้วได้อย่างมีประสิทธิภาพ - ฉีดโบหน้าผาก ช่วยชะลอการเกิดริ้วรอยใหม่
การฉีดโบหน้าผากไม่เพียงแค่ลดเลือนริ้วรอยเดิม แต่ยังช่วยชะลอการเกิดริ้วรอยใหม่ในอนาคต - ฉีดโบหน้าผาก เห็นผลลัพธ์เร็ว
ผลลัพธ์หลังการฉีดโบหน้าผาก สามารถเริ่มเห็นได้ภายใน 3-4 วัน และชัดเจนเต็มที่ใน 1-2 สัปดาห์ - ฉีดโบหน้าผาก ไม่มีแผลและไม่ต้องพักฟื้น
กระบวนการฉีดโบหน้าผาก ใช้เวลาไม่นาน และไม่มีแผลหลังการรักษา ผู้รับบริการสามารถกลับไปทำกิจวัตรประจำวันได้ทันที - ฉีดโบหน้าผาก ให้ผลลัพธ์ที่ยาวนาน
การฉีดโบหน้าผากสามารถให้ผลลัพธ์ที่ยาวนาน 4-6 เดือน ทั้งนี้ขึ้นอยู่กับยี่ห้อของโบ และการดูแลตนเอง
การฉีดโบหน้าผากเหมาะกับใคร?
- ผู้ที่มีริ้วรอยชัดเจนบริเวณหน้าผากเมื่อแสดงอารมณ์
เช่น การขมวดคิ้วหรือเลิกคิ้ว ที่ส่งผลให้เกิดรอยพับและริ้วรอยชัดเจนเมื่อแสดงสีหน้า - ผู้ที่มีริ้วรอยลึกที่มองเห็นได้แม้ไม่ได้แสดงสีหน้า
เหมาะสำหรับผู้ที่เริ่มมีริ้วรอยลึกจากอายุที่เพิ่มขึ้น หรือผิวที่เสื่อมสภาพซึ่งเห็นได้ชัดเจนแม้ในเวลาพักหน้าปกติ - ผู้ที่ต้องการลดริ้วรอยโดยไม่ต้องผ่าตัด
การฉีดโบหน้าผากเป็นวิธีที่ไม่ต้องผ่าตัด ไม่มีแผล และไม่ต้องพักฟื้น เหมาะสำหรับคนที่ไม่ต้องการการรักษาแบบรุกราน - ผู้ที่ต้องการผลลัพธ์รวดเร็วและปลอดภัย
การฉีดโบหน้าผากให้ผลลัพธ์ที่รวดเร็ว โดยเริ่มเห็นผลใน 3-4 วัน และชัดเจนเต็มที่ใน 1-2 สัปดาห์
การฉีดโบหน้าผากเป็นตัวเลือกที่ดีสำหรับผู้ที่ต้องการลดเลือนริ้วรอยแบบปลอดภัยและมีประสิทธิภาพ โดยไม่ต้องใช้เวลานานในการฟื้นตัว
อ่านเพิ่มเติมได้ที่ : https://www.romrawin.com/forehead-botox/
การฉีดโบหน้าผากไม่เหมาะกับใคร?
- สตรีตั้งครรภ์หรือให้นมบุตร
การฉีดโบทูลินัม ท็อกซินยังไม่มีข้อมูลยืนยันด้านความปลอดภัยสำหรับผู้ที่ตั้งครรภ์หรือให้นมบุตร จึงควรหลีกเลี่ยงเพื่อความปลอดภัยของแม่และเด็ก - ผู้ที่แพ้สารโบทูลินัม ท็อกซิน
ผู้ที่เคยมีประวัติการแพ้สารโบทูลินัม ท็อกซิน ไม่ควรฉีดเพื่อป้องกันอาการแพ้ที่อาจเป็นอันตราย - ผู้ที่มีโรคกล้ามเนื้ออ่อนแรง
เช่น โรค Myasthenia Gravis หรือโรค Lambert-Eaton Syndrome การฉีดโบทูลินัม ท็อกซินอาจเพิ่มความเสี่ยงต่อภาวะกล้ามเนื้ออ่อนแรง - ผู้ที่มีการอักเสบหรือติดเชื้อบริเวณที่จะฉีด
หากบริเวณหน้าผากมีการอักเสบ ติดเชื้อ หรือผื่น ควรรักษาอาการเหล่านี้ให้หายก่อน เพื่อป้องกันการกระจายของเชื้อโรคและผลข้างเคียงที่ไม่พึงประสงค์
วิธีการเตรียมตัวก่อนฉีดโบหน้าผาก
- ศึกษาข้อมูลและเลือกคลินิกที่ได้มาตรฐาน
ควรเลือกสถานพยาบาลที่ได้รับการรับรอง และมีแพทย์ที่มีความเชี่ยวชาญในการฉีดโบหน้าผาก - เลือกโบที่ผ่านการรับรอง
ตรวจสอบให้แน่ใจว่าโบที่ใช้ฉีดโบหน้าผากเป็นของแท้ และได้รับการรับรองจากอย. สามารถของทางคลินิกตรวจสอบได้ก่อนทำหัตถการ - งดการใช้ยาและผลิตภัณฑ์บางประเภท
ก่อนฉีดโบหน้าผากควรหลีกเลี่ยงการใช้ยาที่มีผลต่อการแข็งตัวของเลือด เช่น แอสไพริน หรือไอบูโพรเฟน ก่อนฉีดประมาณ 2 สัปดาห์ - งดการขัดหน้าและสครับผิว
ก่อนฉีดโบหน้าผาก ควรงดการขัดหน้าและสครับผิว เพื่อลดโอกาสการเกิดรอยช้ำหรือการระคายเคือง
ขั้นตอนการฉีดโบหน้าผาก
- แพทย์ประเมินปัญหาผิวและกล้ามเนื้อของผู้รับบริการ
แพทย์จะทำการตรวจสอบปัญหาริ้วรอย ความลึกของรอย และประเมินการทำงานของกล้ามเนื้อบริเวณหน้าผาก เพื่อกำหนดแผนการรักษาอย่างเหมาะสม - เลือกยี่ห้อและปริมาณโบที่เหมาะสม
แพทย์จะเลือกใช้โบที่เหมาะสมกับสภาพผิวและปัญหาของผู้รับบริการ โดยคำนวณปริมาณที่เพียงพอในการลดริ้วรอย โดยไม่ทำให้หน้าตึงเกินไป - ฉีดโบหน้าผากในตำแหน่งที่ต้องการด้วยความแม่นยำ
แพทย์จะฉีดโบหน้าผากในบริเวณที่มีปัญหาริ้วรอยอย่างระมัดระวัง ด้วยเทคนิคที่ถูกต้อง เพื่อให้ผลลัพธ์เป็นธรรมชาติและลดความเสี่ยงของผลข้างเคียง - ให้คำแนะนำการดูแลหลังฉีดโบหน้าผาก
หลังฉีดโบหน้าผาก แพทย์จะแนะนำวิธีการดูแลตัวเองอย่างเหมาะสม เช่น การหลีกเลี่ยงกิจกรรมบางอย่าง หรือวิธีปฏิบัติเพื่อยืดอายุผลลัพธ์ของการฉีดโบหน้าผาก
ฉีดโบหน้าผาก ต้องดูแลตัวเองหลังทำอย่างไร ?
- หลังฉีดโบหน้าผาก ควรขยับกล้ามเนื้อบริเวณที่ฉีดโบหน้าผากเล็กน้อย เพื่อให้ตัวยากระจายได้ทั่วถึง
- หลังฉีดโบหน้าผาก ห้ามนอนราบ หรือนอนตะแคง 3-4 ชั่วโมงแรกหลังฉีด
- หลังฉีดโบหน้าผาก ควรหลีกเลี่ยงความร้อน เช่น ซาวน่า หรือการใช้น้ำอุ่นล้างหน้า ประมาณ 2 สัปดาห์
- หลังฉีดโบหน้าผาก ควรงดกิจกรรมที่ทำให้หน้าแดง เช่น การออกกำลังกายหนัก
- หลังฉีดโบหน้าผาก คสรงดสูบบุหรี่และดื่มแอลกอฮอล์
- หลังฉีดโบหน้าผาก ควรหลีกเลี่ยงการกด นวด หรือถูบริเวณที่ฉีด
ฉีดโบหน้าผาก มีผลข้างเคียงไหม ?
หลังฉีดโบหน้าผาก อาจะมีผลข้างเคียงที่พบได้ปกติ คือ รู้สึกตึงบริเวณที่ฉีด มีรอยแดงหรือรอยช้ำเล็กน้อย ซึ่งผลข้างเคียงจะค่อย ๆ หายไปเอง แต่หากหลังฉีดโบหน้าผากเกิดผลข้างเคียงแบบผิดปกติ อาจเกิดการติดเชื้อหรืออักเสบในบริเวณที่ฉีด ทำให้ใบหน้าตึงหรือแข็งจนดูไม่เป็นธรรมชาติ ซึ่งควรรีบปรึกษาแพทย์
ฉีดโบหน้าผาก ยี่ห้อไหนดี?
- Allergan (สหรัฐอเมริกา) ความบริสุทธิ์สูงสุด 99.5% เหมาะสำหรับผู้ที่ต้องการผลลัพธ์ที่แม่นยำและอยู่ได้นาน
- Aestox (เกาหลีใต้) ให้ผลลัพธ์ที่ดูเป็นธรรมชาติและออกฤทธิ์เร็ว
- Dysport (อังกฤษ) ยากระจายตัวกว้าง เหมาะสำหรับการยกกระชับ
- Xeomin (เยอรมนี) ใช้เทคโนโลยี XTRACT Technology กำจัดโปรตีนที่ไม่จำเป็น
- Nabota (เกาหลีใต้) ฉีดโบหน้าผากเห็นผลเร็วและได้รับการรับรองจาก U.S. FDA
คำถามพบบ่อยเกี่ยวกับการฉีดโบหน้าผาก
- ฉีดโบหน้าผาก เจ็บไหม?
ก่อนฉีดโบหน้าผาก สามารถแปะยาชาหรือประคบเย็น เพื่อลดความเจ็บระหว่างฉีดได้ - ฉีดโบหน้าผาก เห็นผลลัพธ์ในกี่วัน?
หลังฉีดฉีดโบหน้าผากจะเห็นผลเริ่มต้นใน 3-4 วัน และชัดเจนใน 1-2 สัปดาห์ - ฉีดโบหน้าผาก ผลลัพธ์อยู่ได้นานแค่ไหน?
ฉีดโบหน้าผาก ผลลัพธ์สามารถอยู่ได้นานประมาณ 4-6 เดือน
สรุป
การฉีดโบหน้าผาก เป็นทางเลือกที่เหมาะสำหรับผู้ที่ต้องการลดริ้วรอยอย่างมีประสิทธิภาพ เห็นผลลัพธ์เร็ว และปลอดภัย แต่การเลือกคลินิกที่ได้มาตรฐานและแพทย์ที่มีความเชี่ยวชาญเป็นสิ่งสำคัญ เพื่อให้ได้ผลลัพธ์ที่ดีที่สุดและปลอดภัยที่สุดในระยะยาว

















