แพรรี่ ซัดแรง! สีกากอล์ฟอย่าอ้าง ‘เพื่อลูก’ ทั้งที่ผลาญร้อยล้านเล่นพนัน
แพรรี่ ไพรวัลย์ เดือด! ซัดเดือดกรณี “สีกากอล์ฟ” กลางรายการโหนกระแส: ความจนไม่ใช่ใบเบิกทางทำลายศีลธรรม
เป็นอีกหนึ่งประเด็นร้อนแรงที่สะเทือนวงการพระสงฆ์ไทยในช่วงสัปดาห์ที่ผ่านมา เมื่อกรณีของ “สีกากอล์ฟ” หญิงสาวที่มีความเกี่ยวข้องเชื่อมโยงกับพระผู้ใหญ่หลายรูป กลายเป็นกระแสข่าวที่ผู้คนทั้งประเทศจับตามอง โดยเฉพาะเมื่อเธอออกมาเปิดใจผ่าน รายการโหนกระแส เทปออกอากาศวันที่ 18 กรกฎาคม 2568 ซึ่งมีการเปิดคลิปสัมภาษณ์พิเศษ พร้อมคำพูดที่สร้างแรงสะเทือนต่อสังคมอย่างหนักว่า “ที่ทำแบบนี้เพราะความจนมันน่ากลัว อยากให้ลูกมีชีวิตที่ดี ไม่ว่าต้องทำอะไรก็ยอมทั้งนั้น”
และแน่นอนว่าเมื่อพูดถึงประเด็นที่เกี่ยวข้องกับวงการสงฆ์ หนึ่งในบุคคลที่มักถูกเชิญให้แสดงความคิดเห็นก็คือ แพรรี่ ไพรวัลย์ วรรณบุตร หรือที่รู้จักกันในอดีตในฐานะพระนักเทศน์ชื่อดัง ซึ่งถึงแม้จะลาสิกขาออกมาแล้ว แต่ก็ยังคงได้รับความเคารพและไว้วางใจจากประชาชนในการแสดงความคิดเห็นเกี่ยวกับศีลธรรม วัฒนธรรม และความถูกต้องในสังคมไทย โดยเฉพาะเมื่อมีเหตุการณ์ที่สะเทือนใจหรือผิดแปลกไปจากครรลองที่ควรจะเป็น
จากอดีตพระนักเทศน์ สู่ "อินฟลูเอนเซอร์จิตวิญญาณ"
แพรรี่ ไพรวัลย์ เคยสร้างปรากฏการณ์ในโลกโซเชียลด้วยลีลาการเทศน์ที่ตรงไปตรงมา ชัดเจน และใช้ภาษาที่เข้าถึงใจคนรุ่นใหม่ ทำให้เธอมีฐานแฟนคลับจำนวนมากทั้งในและนอกวงการศาสนา และแม้ว่าเธอจะลาสิกขาแล้ว แต่การแสดงออกของแพรรี่ก็ยังคงเปี่ยมไปด้วยพลังและเจตนารมณ์ในการปกป้องศีลธรรมในสังคม
เมื่อมีการพูดถึงข่าวฉาวในวงการพระสงฆ์อย่างกรณีของ “สีกากอล์ฟ” ที่อ้างว่าทำทุกอย่างเพื่อความอยู่รอดของลูก เพราะ “ความจน” บีบบังคับ เธอไม่ลังเลที่จะออกมาแสดงความเห็นอย่างจริงจังหลังรายการออกอากาศเพียงไม่นาน
โพสต์เดือดกลางเฟซบุ๊ก: “จนก็ต้องมีเกียรติ จนก็ต้องรักศักดิ์ศรีค่ะ”
หนึ่งในโพสต์ของแพรรี่ที่กลายเป็นไวรัลในโลกออนไลน์คือการเขียนข้อความลงบนเฟซบุ๊กส่วนตัวว่า:
“ความจนไม่ใช่ความชอบธรรมของการเห็นแก่ตัว โดยไม่สนใจความถูกต้องชั่วดี ความจนไม่ใช่ข้ออ้างเพื่อการทำลายสังคมและการทำร้ายคนอื่น จนก็ต้องมีเกียรติ จนก็ต้องรักศักดิ์ศรีค่ะ”
คำพูดสั้น ๆ แต่ทรงพลังนี้สะท้อนความรู้สึกของประชาชนจำนวนมากที่มองว่าการยกเอาความลำบากทางการเงินมาเป็นข้ออ้างในการทำสิ่งผิดศีลธรรม หรือสร้างความเสียหายต่อผู้อื่น ไม่ใช่เรื่องที่ควรยอมรับได้ ไม่ว่าผู้นั้นจะอยู่ในสถานะไหนก็ตาม
และไม่จบเพียงแค่นั้น เพราะแพรรี่ยังได้โพสต์เพิ่มเติมในเวลาไล่เลี่ยกันอีกว่า:
“อ้างว่าทำเพื่อลูกแบบนั้นแบบนี้ แต่เงิน 300 กว่าล้านที่หายไป มึงหมดไปกับพนันออนไลน์ไม่ใช่เหรอคะ อีกล์อฟ”
โพสต์นี้กลายเป็นไวรัลทันที หลายคนต่างแชร์ออกไปในโซเชียล พร้อมใส่แคปชั่นแสดงความเห็นด้วย เพราะมันสะท้อนความรู้สึก “อัดอั้น” ของสังคมไทยในยุคที่ศีลธรรมเริ่มถูกทำลายด้วยคำว่า “ปากท้อง” อย่างน่าเป็นห่วง
ความจนคือปัญหา แต่ไม่ใช่เหตุผลในการละเมิดศีลธรรม
แพรรี่ ไพรวัลย์ ไม่ใช่เพียงแค่ “ออกมาพูด” แต่สิ่งที่เธอพยายามส่งสารอยู่เสมอคือ การชี้ให้เห็นว่าความจนเป็นปัญหาทางโครงสร้างของสังคม แต่การตอบสนองต่อความจนไม่ควรถูกใช้เป็นเหตุผลในการกระทำผิด ไม่ว่าจะในรูปแบบใด ๆ
ในกรณีของ “สีกากอล์ฟ” ที่พัวพันกับพระผู้ใหญ่หลายรูป และมีประเด็นเกี่ยวข้องกับเงินจำนวนมากกว่า 300 ล้านบาท การกล่าวอ้างว่า “ทำเพื่อลูก” จึงกลายเป็นเรื่องที่สังคมตั้งคำถามว่า เป็นจริงหรือเป็นเพียงข้ออ้างเพื่อหลีกเลี่ยงการถูกประณาม
หลายคนยกย่องว่า แพรรี่เป็นตัวแทนของ “เสียงของประชาชน” ที่ไม่สามารถพูดตรง ๆ ได้ เพราะเธอกล้าที่จะวิพากษ์ประเด็นอ่อนไหวในวงการศาสนา ซึ่งหลายคนเลือกที่จะเงียบหรือหลีกเลี่ยง
โหนกระแสกับบทบาทสื่อในการสะท้อนปัญหาสังคม
รายการ โหนกระแส ที่นำโดยพิธีกรฝีปากกล้าอย่าง หนุ่ม กรรชัย ถือเป็นเวทีที่เปิดพื้นที่ให้ประชาชนได้รับฟังข้อมูลทั้งสองด้าน ไม่ว่าจะเป็นผู้ถูกกล่าวหา หรือผู้มีประสบการณ์ตรง และในกรณีนี้ การที่สีกากอล์ฟมาให้สัมภาษณ์พร้อมเปิดใจ จึงกลายเป็นประเด็นที่ผู้ชมทั้งประเทศจับตา พร้อมเสียงวิจารณ์ที่หลากหลาย
และแน่นอนว่าเมื่อมีแพรรี่เข้าร่วมรายการ เสียงสะท้อนจากเธอก็ทำให้ผู้ชมจำนวนมากรู้สึกว่านี่ไม่ใช่แค่การสัมภาษณ์เพื่อความบันเทิง แต่เป็นการเปิดโปงสิ่งที่ค้างคาอยู่ในสังคมไทยมายาวนาน โดยเฉพาะเรื่องของศีลธรรมที่เชื่อมโยงกับสถาบันพระสงฆ์
ชาวเน็ตแห่ให้กำลังใจแพรรี่ พร้อมแสดงความเห็นด้วย
หลังจากที่แพรรี่โพสต์ข้อความเหล่านั้นลงบนเฟซบุ๊ก ปรากฏว่ามีผู้ใช้โซเชียลจำนวนมากเข้ามาแสดงความคิดเห็น สนับสนุน และแชร์โพสต์ดังกล่าวอย่างล้นหลาม คอมเมนต์จำนวนมากกล่าวว่า “พูดแทนใจคนไทยทั้งประเทศ” หรือ “นี่แหละเสียงของประชาชนที่แท้จริง” บางรายถึงกับยกให้แพรรี่เป็น “ผู้กล้าที่แท้จริงในยุคนี้”
สะท้อนสังคมไทย: ถึงเวลาทบทวนคุณค่าความยากจน vs. ศีลธรรม
กรณีของสีกากอล์ฟและการออกมาแสดงความเห็นของแพรรี่สะท้อนถึงปัญหาที่ฝังรากลึกในสังคมไทย นั่นคือการมองว่า “ความจน” เป็นเหตุผลให้คนทำผิดได้ ซึ่งเป็นแนวคิดที่อันตราย หากปล่อยให้ฝังลึกลงไปในจิตใจคนไทยรุ่นใหม่
เพราะในท้ายที่สุดแล้ว “ศักดิ์ศรี” ของความเป็นมนุษย์ ไม่ได้วัดกันที่ฐานะ แต่เป็นเรื่องของ “ความรับผิดชอบ” ต่อสังคม ต่อผู้อื่น และต่อความถูกต้อง
สรุป: แพรรี่คือกระบอกเสียงที่สังคมไทยต้องการในเวลานี้
กรณี “สีกากอล์ฟ” คือหนึ่งในอีกหลายเหตุการณ์ที่สะท้อนความบิดเบี้ยวของค่านิยมในบางช่วงของสังคมไทย และ แพรรี่ ไพรวัลย์ คือหนึ่งในไม่กี่เสียงที่ยังคงยืนยันในหลักคุณธรรม ความถูกต้อง และความกล้าหาญที่จะพูดความจริง แม้จะต้องเผชิญกับกระแสทั้งบวกและลบ
ในวันที่สังคมต้องการผู้นำทางศีลธรรมที่กล้าหาญและไม่ประนีประนอมกับความผิด แพรรี่จึงกลายเป็นมากกว่าผู้แสดงความเห็นธรรมดา แต่เป็นสัญลักษณ์ของ “ความกล้า” ที่สังคมไทยกำลังโหยหา

