ทนายเกิดผลชี้! ครูปรีชาฟ้อง 'โน้ส' อาจทำตัวเองติดคุกตอนแก่
คดีทิฟฟานี่ที่ถูกแชร์ในโซเชียลมีเดียกำลังเป็นที่พูดถึงอย่างกว้างขวาง โดยมีคนดังหลายรายออกมาร่วมวิพากษ์วิจารณ์ในประเด็นนี้ โดยเฉพาะกรณีที่ "โน้ส อุดม" ได้นำเรื่องราวของ "ครูปรีชา" มาพูดถึงในทอล์กโชว์ ซึ่งเป็นผลให้ครูปรีชาตัดสินใจแจ้งความเอาผิดในข้อหาหมิ่นประมาท ทำให้คดีที่เคยจบไปแล้วกลับมาเป็นที่สนใจอีกครั้ง ทนายเกิดผล แก้วเกิด ได้ออกมาแสดงความคิดเห็นในเชิงกฎหมายและตั้งข้อสังเกตอย่างน่าสนใจว่าการกลับมาของคดีนี้อาจทำให้ครูปรีชาได้รับผลกระทบทางกฎหมายได้
ในมุมของกฎหมายแล้ว โน้ส อุดม สามารถใช้ข้อกฎหมายในการต่อสู้คดีได้อย่างมั่นคง เนื่องจากมีคำพิพากษาของศาลฎีกาที่ถือว่าเด็ดขาดและเป็นที่สิ้นสุดแล้วว่าสลากกินแบ่งรัฐบาลเป็นของหมวดจรูญ ไม่ใช่ของครูปรีชาตามที่กล่าวอ้างตั้งแต่แรก การกระทำของโน้ส อุดม ที่พูดถึงข้อเท็จจริงที่ได้รับการพิสูจน์แล้วนั้นจึงไม่ถือว่าเป็นการหมิ่นประมาท เพราะเป็นไปตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 329(3) ที่ระบุว่าการติชมโดยสุจริตและเป็นธรรมนั้นไม่ถือเป็นความผิด และยังสามารถใช้มาตรา 330 ในการต่อสู้คดีได้อีกด้วย หากพิสูจน์ได้ว่าเป็นเรื่องจริง การกระทำนั้นก็ไม่เป็นความผิด
ท้ายที่สุด ทนายเกิดผลได้ให้มุมมองว่าการที่ครูปรีชาเลือกกลับมาดำเนินการทางกฎหมายอีกครั้งหลังจากที่เรื่องราวได้เงียบหายไปนาน อาจจะไม่ได้เป็นประโยชน์ต่อตัวครูปรีชาเองอย่างที่คาดหวังไว้ เพราะสุดท้ายแล้วฝ่ายโน้ส อุดม ก็มีข้อเท็จจริงและหลักฐานจากคำพิพากษาของศาลที่แข็งแกร่งมากพอที่จะใช้ในการต่อสู้คดีได้ ซึ่งอาจส่งผลให้ครูปรีชาเองต้องเผชิญกับผลลัพธ์ทางกฎหมายที่ไม่พึงประสงค์จากการตัดสินใจครั้งนี้ การกระทำของครูปรีชาจึงดูเหมือนจะเป็นการฟื้นคืนคดีที่เคยจบลงไปแล้วให้กลับมาเป็นประเด็นสาธารณะอีกครั้งอย่างไม่จำเป็น และในท้ายที่สุดอาจส่งผลเสียต่อตัวครูปรีชาเองในวัยชราได้ เนื่องจากต้องต่อสู้คดีความที่อาจไม่เป็นไปตามที่ตนเองต้องการ





















