"กัมพูชาหรือคุณป้าหมอ"เพื่อนบ้านมหาภัย...ใครร้ายกว่ากัน?
เวลาอยู่บ้านติดกัน เรามักมีปัญหาเรื่องรั้ว เรื่องเสียง เรื่องขยะ แต่บางครั้งมันไม่จบแค่ทะเลาะเบาะแว้งเล็ก ๆ เพราะเพื่อนบ้านบางคนก็ถึงขั้น “ประสาทแดก” จนทำให้ทั้งซอยร้อนรุ่ม กรณีดังอย่าง คุณตุ๊ดตู่ (โหนกระแส) กับคุณป้าหมอ ที่เคยกลายเป็นข่าวในโหนกระแส ก็คือภาพสะท้อนชัดเจนว่า การอยู่ใกล้คนแบบนี้ไม่ต่างอะไรกับการอยู่ชายแดนที่มีปัญหาตลอดเวลา
ลองเปรียบง่าย ๆ ว่า “คุณตุ๊ดตู่” คือประเทศไทย ส่วน “ป้าหมอมหาภัย” ก็คือเพื่อนบ้านอย่างกัมพูชา ปัญหาที่เกิดขึ้นเลยคล้าย ๆ กันทั้งในชีวิตจริงและการเมืองระหว่างประเทศ
ป้ามหาภัย VS กัมพูชา
-
ไฟสาดหน้ากลางดึก – สงครามประสาท
ป้าข้างบ้านเล่นเปิดสปอตไลต์ใส่บ้านตุ๊ดตู่ตอนเที่ยงคืน ดั่งกับคิดว่าบ้านคนอื่นคือสนามฟุตบอล ส่วนกัมพูชาก็ไม่ต่างกัน เล่นปล่อยข่าวปลอม ยิงคำพูดแรง ๆ หรือจัดโชว์ยั่วยุชายแดนจนเรางงว่า “เอ้า นี่เขาคิดว่าเราว่างมานั่งหัวร้อนใส่เขาเหรอ?” -
อ้างรั้ว อ้างที่ – พิพาทชายแดน
ทีเด็ดอยู่ตรงนี้… ป้าบ้านจัดสรรบอกว่ารั้วฝั่งเราน่ะเป็นของแก แถมยังชอบโยนทั้งขยะ ทั้งขี้หมามาให้เป็นของแถมเข้าบ้านเราประจำ ทั้งที่ทุกคนก็รู้ว่าซื้อบ้านในโครงการเดียวกัน ข้อตกลงมันก็ชัดเจนแล้วว่า “บ้านใครบ้านมัน รั้วใครรั้วมัน” แต่ไม่รู้ป้าไปโกรธอะไรกับแบบแปลนโครงการ ถึงได้คิดว่าการโยนของสกปรกเข้าบ้านคนอื่นเป็นสิทธิพิเศษเฉพาะตัว โคตรจะไร้สาระพอ ๆ กับเวลาที่กัมพูชาหยิบ MOU หรือพื้นที่ทับซ้อนมาเคลมมั่ว ๆ แล้วบอกว่า “ของฉัน ของฉัน!” แบบไม่อายฟ้าอายดิน -
ลากเรื่องไปฟ้องกรรมการ – ศาลโลกและเวทีนานาชาติ
ป้าไม่พอใจอะไรก็ถ่ายรูปบ้านเราไปให้กรรมการหมู่บ้านตัดสินรัว ๆ กัมพูชาก็สายเดียวกันนี่แหละ ชอบเอาเรื่องไปโวยที่เวทีโลก หวังจะให้คนอื่นมาชี้ขาดแทนตัวเอง …อารมณ์แบบเด็กน้อยแพ้เกมแล้วฟ้องครูประจำชั้นนั่นแหละ
ถามว่าป้าหมอร้ายมั้ย? ร้ายสิ…แต่ก็ร้ายเดี่ยว ๆ แค่คนเดียวเล่นใหญ่เสียงดังไปวัน ๆ แต่กัมพูชานี่คือ “แพ็กเกจสุดคุ้ม” เพราะนอกจากผู้นำที่ชอบเล่นบทป้าแล้ว ยังมี “คนใช้ทั้งบ้าน” ประชากรจำนวนไม่น้อยที่ถูกปลุกปั่นจนพร้อมเป็นกองเชียร์ ช่วยโหมโรงก่อกวนให้หนักขึ้นไปอีก เรียกว่าป้าข้างบ้านยังต้องยอมแพ้ในเรื่องการระดมพลสร้างปัญหา ดังนั้น ถ้าจะตัดสินกันจริง ๆ กัมพูชานี่แหละ “ประสาทกว่า” แบบไม่ต้องสงสัย
แม้ว่าคุณตุ๊ดตู่ไม่ได้เอาไฟแรงกว่าส่องกลับ ช่วงแรกๆอาจมีที่เดินไปขอร้องหน้าบ้านป้า แต่วิธีที่เลือกทำมาตลอดคือเก็บหลักฐาน ใช้กฎหมาย และเล่าเรื่องให้ชุมชนฟังจนมีพยานเต็มซอย ประเทศไทยก็เหมือนกัน เธอต้องยึด MOU เป็นหลักฐาน อธิบายกับประชาชนว่านี่คือเครื่องมือคุย ไม่ใช่เอกสารสละดินแดน และไม่ไปหัวร้อนเล่นตามเกมที่เขาปั่น
ถ้าคำถามคือ “กัมพูชาหรือคุณป้าหมอมหาภัย ใครร้ายกว่ากัน?”
คำตอบชัด ๆ เลย: กัมพูชา ประสาทกว่าเยอะ
เพราะถึงคุณป้ามีแค่ไฟสปอตไลต์กับเสียงกรอกด่าแสบแก้วหู แต่กัมพูชามีทั้งผู้นำที่เหมือนป้า และมวลชนที่ทำหน้าที่เหมือน “ลูกสมุนก่อกวน” แบบไม่รู้เหนือรู้ใต้
แต่ถึงจะเป็นแบบนี้ เราก็ยังแอบหวังอยู่ว่า วันหนึ่งกัมพูชาจะยกธงถอยเหมือนป้าที่หมดแรงด่า ยอมเลิกก่อกวน แล้วย้ายบ้านหนีไปไกล ๆ ทิ้งไว้แต่ซอยที่สงบ ไม่มีสิ่งอัปมงคลเกะกะสายตา รอให้เรารีโนเวทข้างบ้านใหม่ให้สวยงามเสียที
ภาพประกอบ https://www.facebook.com/HKS2017 และ https://www.facebook.com/poojidtakorn
















