ฮาตาโนะ ยุย ตอบกลับฉะฉาน! หลังถูกวิจารณ์ "รูปร่างเปลี่ยนเหมือนคุณป้า"

นักแสดงหญิงชาวญี่ปุ่นชื่อดัง ฮาตาโนะ ยุย (Hatano Yui) ซึ่งอยู่ในวงการมานานกว่า 17 ปี ได้ออกมาตอบโต้เสียงวิพากษ์วิจารณ์จากสาธารณชนเกี่ยวกับรูปร่างที่เปลี่ยนแปลงไปอย่างเผ็ดร้อนแต่เปี่ยมด้วยไหวพริบ หลังจากถูกโซเชียลมีเดียแซวว่า "ดูอวบขึ้น" หรือ "เหมือนคุณป้า" ในช่วงไม่กี่ครั้งที่ผ่านมา 

กระแสวิจารณ์เรื่องรูปร่างของเธอเริ่มขึ้นตั้งแต่เมื่อเดือนเมษายนปีที่แล้ว หลังภาพถ่ายด้านข้างของเธอถูกเผยแพร่ออกไป และยิ่งทวีความรุนแรงขึ้นอีกครั้งในเดือนสิงหาคมปีนี้ ขณะที่เธอเดินทางไปจัดงานแฟนมีตติ้งที่ฮ่องกง แม้จะมาในชุดกิโมโนที่ดูเซ็กซี่ แต่รูปร่างที่ดูเต็มขึ้นก็ทำให้เธอถูกเหน็บแนมจากคนบางกลุ่มว่า "สภาพไม่เหมือนเดิม" หรือ "เหมือนคุณป้า"

อย่างไรก็ตาม ฮาตาโนะ ยุย ได้เลือกที่จะตอบโต้คำวิจารณ์เหล่านี้ด้วยความเป็นมืออาชีพและทัศนคติเชิงบวกอันน่าชื่นชม ซึ่งหลายคนยกให้เป็นการตอบกลับด้วย "EQ สูง" 

ในการตอบคำถามเกี่ยวกับรูปร่างที่ดูอวบอิ่มขึ้น เธอแสดงความคิดเห็นอย่างเปิดเผยว่า การเปลี่ยนแปลงของร่างกายในตอนนี้เป็นส่วนหนึ่งของความท้าทายที่เธอต้องการมอบให้กับตัวเองและผลงาน

เธอกล่าวอย่างชัดเจนและมั่นใจว่า:

"ฉันมีช่วงที่ผอมมาก และมีช่วงที่อ้วนด้วย มีช่วงที่สะโพกเล็ก และตอนนี้ก็มีช่วงที่สะโพกใหญ่ขึ้นด้วย เพราะเป็นไปไม่ได้เลยที่ฉันจะอยู่ในสภาพเดิมไปตลอดกาล หากใครที่ชอบความผอมมากๆ ก็ขอให้ไปดูผลงานเก่าของฉันได้เลย ฉันหวังว่าทุกคนจะสามารถสนุกไปกับการเปลี่ยนแปลงเหล่านี้ผ่านผลงานที่มีอยู่ได้ ฉันรู้สึกขอบคุณมากๆ"

คำพูดของเธอนอกจากจะแสดงถึงความมั่นใจในตัวเองแล้ว ยังสะท้อนถึงการยอมรับในความจริงที่ว่าร่างกายของมนุษย์ย่อมเปลี่ยนแปลงไปตามกาลเวลาและประสบการณ์ ซึ่งเธอต้องการให้แฟนๆ ได้เปิดใจรับและชื่นชมกับทุกช่วงชีวิตและการทำงานของเธอ

นอกจากนี้ เธอยังเคยพูดไว้ก่อนหน้านี้ด้วยว่า "หวังว่าผู้หญิงหลายๆ คนจะไม่ยอมแพ้ตัวเอง และพยายามทำให้ตัวเองเป็นผู้หญิงที่สวยที่สุด" ซึ่งเป็นการส่งมอบพลังบวกและกำลังใจให้กับผู้หญิงทุกคนให้รักและมั่นใจในตัวเองไม่ว่าจะอยู่ในรูปลักษณ์แบบใดก็ตาม

การตอบกลับที่ตรงไปตรงมาและเปี่ยมด้วยความมั่นใจของ ฮาตาโนะ ยุย จึงไม่เพียงแต่เป็นการปกป้องตัวเองจากคำวิจารณ์เท่านั้น แต่ยังเป็นบทเรียนที่ทรงพลังเกี่ยวกับการ "ยอมรับการเปลี่ยนแปลง" และการมี "ความภาคภูมิใจในตัวเอง" ที่ผู้คนในยุคนี้ควรนำไปปรับใช้