ข่าวนินทาชาร์ลี ชีน เป็นเอดส์นั้นมีโอกาสเป็นความจริงเกิน 70 เปอร์เซนต์ หรือเปล่า???

กอสซิบดาราอเมริกันตอนนี้ไม่มีข่าวไหนใหญ่และมันปากเท่ากับข่าวพระเอกสุดซ่าแห่งวงการฮอลลีวู้ดวัย 50 ปี ชาร์ลี ชีน ลือติดเอดส์มาหลายปีแล้ว ซึ่งตอนแรกนั้นไม่เปิดเผยว่าดาราชายคนนี้เป็นใคร แต่สื่อพยายามนำดาวโป๊สาวและไปถามดาราคนอื่นๆที่เป็นห่วงสุขภาพตนเอง หลังจากเคยมีเพศสัมพันธ์กับเขา ทั้งหมดแทบจะให้ข่าวไปในทางเดียวกัน

นั่นคือดาราชายคนนี้ซึ่งมีประวัติเรื่องบ้าเซ็กซ์ และเคยหลับนอนกับดาวโป๊, นักเต้นระบำเปลื้องผ้า รวมทั้งเล่นเสียวแบบหมู่มาเนิ่นนาน กำลังทุ่มเงินสุดตัวเพื่อรักษาวิกฤติด้านสุขภาพ และว่ากันว่าเขาใช้เงินไปหลายล้านดอลล่าร์ในการรักษาตัวเลยทีเดียว และนั่นตรงกับพฤติกรรมของชาร์ลี ชีน

และเจ้าตัวก็เคยยอมรับออกสื่อมาก่อนหน้านี้ด้วยว่า นอกจากเรื่องผู้หญิงที่ควงกับดาวโป๊มากหน้าหลายตาแล้ว เขายังเคยติดเหล้าและยาอย่างหนักด้วย พร้อมกันนั้นยังเผยรายละเอียดโดยยอมรับว่าเคยจ่ายเงินถึง 53,000 เหรียญ เพื่อซื้อบริการทางเพศ จากบรรดาโสเภณีนาน 15 เดือน ระหว่างปี 1991 และ 1993 ซึ่งเกิดขึ้นก่อนที่เขาจะเข้าสู่ชีวิตแต่งงาน 3 ครั้ง อย่างไรก็ตามแม้จะแต่งงานใช้ชีวิตคู่แล้ว เขาก็ยังคงมีพฤติกรรมเสพติดเรื่องทางเพศเช่นเดิม

ในปี 2011 หลังจากที่เขาถูกทาง CBS ไล่ออกจากการแสดงซีรีย์ Two and a Half Men เจ้าตัวก็ค่อนข้างหมดสภาพและพยายามเก็บตัว

สื่อดังอย่าง PEOPLE , the National ENQUIRER และ TMZ ต่างก็รายงานตรงกันว่าเขาคือนักแสดงที่ติดเชื้อ HIV Positive ซึ่งตอนนี้ตัวของชาร์ลี ชีนเองก็กังวลว่าเขาอาจถูกฟ้องร้องจากบรรดาคู่นอนเพื่อเรียกค่าเสียหายที่เป็นต้นเหตุให้ติดเชื้อ HIV ด้วย

มีหญิงสาวอย่างน้อย 4 คนที่อ้างว่า ชีน ทำให้พวกเธอติดเชื้อร้าย และเขายอมจ่ายเงินให้กับหนึ่งในคู่ขาเพื่อให้ปิดบังเรื่องนี้ "ชาร์ลี มีเซ็กซ์กับสาวพาร์ทเนอร์หลายคนนับตั้งแต่ที่รู้ว่าเขาติดเชื้อเอชไอวี โดยไม่ยอมบอกกับพวกเธอว่ามีความเป็นไปได้ที่จะติดเชื้อเอชไอวีจากเขา" บางสื่อถึงกับบอกจำนวนของสาวๆที่ชาร์ลีว่ามีเซ๊กส์ด้วยถึง 5000 คนในช่วงที่มีเชื้อเอชไอวี และเขายอมจ่ายเงินหลายหมื่นดอลลาร์เพื่อจ่ายให้ชาย-หญิงรับจ๊อบพิเศษมาเป็นเพื่อนเขาในบ้าน มีการทำกิจกรรมต่างๆ เช่นดูหนัง เต้นรำ ปาร์ตี้ เป็นต้น

เรื่องนี้ทำให้สังคมอเมริการู้สึกสงสารที่ชาร์ลีนโดนแฉถึงโรคร้ายที่เป็นและเห็นใจหนักมากต่อครอบครัวของเขา แม้จะหย่ากันแล้วแต่ก็ยังมีลูกสาวที่ต้องมารับรู้เรื่องนี้ ขณะที่ส่วนใหญ่จะประนามถึงการปกปิดโรค และยังทำตัวเสื่อมๆ นั่นหมายถึงการแพร่เชื้อไปยังคนอื่นด้วย