คลาวเดีย ตัดสินใจฟ้องหย่า ปิดตำนานรัก 17 ปี สุดช้ำต้องพึ่งยานอนหลับ
เปิดใจครั้งแรก “คลาวเดีย จักรพันธุ์” ฟ้องหย่า-ฟ้องชู้ ปิดฉากรัก 17 ปี หลังเผชิญมรสุมชีวิตคู่ เผยเครียดหนักจนน้ำหนักเหลือ 43 กก. ต้องพึ่งยานอนหลับถึง 17 เม็ดต่อคืน
โลกโซเชียลและวงการบันเทิงสะเทือนอีกครั้ง เมื่อ คลาวเดีย จักรพันธุ์ นักแสดงสาวมากความสามารถและอดีตนางเอกที่หลายคนคุ้นเคย ได้ออกมาเปิดใจเป็นครั้งแรกผ่านสื่อบันเทิงชื่อดัง หลังเธอตัดสินใจยื่นฟ้องหย่าสามีชาวเมียนมา ออง ทีฮา พร้อมทั้งยื่นฟ้องบุคคลที่สาม ฐานเป็นชู้ ปิดฉากความสัมพันธ์ยาวนานกว่า 17 ปี
การเปิดใจครั้งนี้ไม่เพียงแต่ทำให้แฟนคลับและสาธารณชนเข้าใจถึงเหตุผลเบื้องหลังการตัดสินใจอันเจ็บปวดของเธอ แต่ยังสะท้อนให้เห็นถึงผลกระทบทางด้านร่างกายและจิตใจที่คลาวเดียต้องเผชิญอย่างหนักตลอดช่วงเวลาที่ผ่านมา
จุดเริ่มต้นของมรสุมชีวิตคู่
คลาวเดียเล่าย้อนถึงจุดเริ่มต้นของปัญหา ว่าเกิดขึ้นตั้งแต่ช่วง มกราคม – พฤศจิกายน 2567 เมื่อเธอเริ่มรับรู้ถึงการมีมือที่สามเข้ามาแทรกในชีวิตคู่ แต่ด้วยความที่เป็นผู้หญิงเข้มแข็งและไม่อยากให้ครอบครัวหรือเพื่อนสนิทต้องเป็นห่วง เธอเลือกที่จะ เก็บความเจ็บปวดไว้เพียงลำพัง
การแบกรับปัญหานี้ยาวนานหลายเดือน ทำให้เธอเผชิญกับความเครียดสะสมอย่างหนัก ไม่สามารถใช้ชีวิตตามปกติได้เหมือนเดิม ทุกคืนที่ต้องนอนร้องไห้จนหมอนเปียก กลายเป็นเรื่องปกติที่เธอต้องเผชิญเกือบตลอดทั้งปี
สุขภาพทรุด เครียดหนักจนน้ำหนักลดฮวบ
หนึ่งในผลกระทบที่เห็นได้ชัดเจนที่สุด คือสุขภาพร่างกายของคลาวเดียที่ทรุดโทรมลงอย่างรวดเร็ว เธอเล่าว่าเพียง สองสัปดาห์แรกหลังจากเผชิญปัญหา น้ำหนักตัวของเธอลดลงไปถึง 6 กิโลกรัม และจนถึงปัจจุบันน้ำหนักเหลือเพียง 43 กิโลกรัม เท่านั้น
ไม่เพียงเท่านั้น ความเครียดยังทำให้เธอเผชิญปัญหา โรคนอนไม่หลับ จนต้องพึ่งพายานอนหลับเป็นจำนวนมาก โดยบางครั้งต้องใช้ถึง 17 เม็ดต่อคืน เพื่อที่จะทำให้ร่างกายได้พักผ่อน แม้จะรู้ว่ามีความเสี่ยงต่อสุขภาพ แต่ก็ไม่มีทางเลือกอื่นในช่วงเวลาที่จิตใจอ่อนแอ
ความพยายามแก้ไขปัญหา แต่ไร้ผล
แม้จะเผชิญความทุกข์หนัก แต่คลาวเดียไม่ได้เลือกที่จะเดินหนีตั้งแต่แรก เธอยอมรับว่าได้พยายามพูดคุยกับสามี ไม่น้อยกว่า 5 ครั้ง เพื่อหาทางออกร่วมกัน หากอีกฝ่ายยินดีแก้ไขปัญหา เรื่องราวคงไม่ต้องบานปลายถึงขั้นนี้
อย่างไรก็ตาม ทุกครั้งที่มีการพูดคุย ผลลัพธ์กลับไม่เป็นไปตามที่หวัง ความสัมพันธ์ยิ่งร้าวลึกขึ้นเรื่อย ๆ จนสุดท้ายเธอต้องตัดสินใจเดินหน้าด้วยการใช้ กระบวนการทางกฎหมาย เพื่อปกป้องศักดิ์ศรีและความยุติธรรมของตัวเอง
การตัดสินใจครั้งสำคัญ: ฟ้องหย่า – ฟ้องชู้
ปลายปี 2567 คลาวเดียตัดสินใจยื่น ฟ้องหย่าและฟ้องชู้ เพื่อให้เรื่องราวได้รับการจัดการตามกฎหมาย คดีดังกล่าวเข้าสู่การพิจารณาของศาลแล้ว โดยที่ผ่านมามีการนัดไกล่เกลี่ยถึง 2 ครั้ง แต่กลับไม่มีฝ่ายใดจากฝั่งคู่กรณีเดินทางมาตามนัด
แม้จะผิดหวัง แต่คลาวเดียยังคงเปิดโอกาสให้มีการไกล่เกลี่ย เพราะเชื่อว่าเป็นวิธีที่สามารถทำให้ทุกอย่างจบลงด้วยดี ไม่ต้องยืดเยื้อและเสียเวลา อย่างไรก็ตาม เธอก็ยอมรับว่าได้ เตรียมใจเผชิญกับสถานการณ์เลวร้ายที่สุด และพร้อมต่อสู้เพื่อความถูกต้องจนถึงที่สุด
พลังใจจากธรรมะและการสวดมนต์
ในช่วงเวลาที่ตกต่ำที่สุด คลาวเดียเลือกที่จะหันหน้าเข้าสู่ ธรรมะและการสวดมนต์ เพื่อสร้างกำลังใจและทำให้จิตใจเข้มแข็งขึ้น เธอยอมรับว่าธรรมะช่วยเยียวยาความทุกข์ที่สั่งสมมานาน และทำให้เธอสามารถลุกขึ้นมาต่อสู้กับความจริงได้
การกลับมาดูแลใจตนเอง ทำให้เธอสามารถมองสถานการณ์ด้วยความเข้าใจมากขึ้น แม้จะเต็มไปด้วยความเจ็บปวด แต่ก็ทำให้เธอเรียนรู้ที่จะมีเมตตาต่อตัวเองและแม้กระทั่งต่อคนที่ทำให้เธอต้องเผชิญปัญหานี้
กำลังใจจากเพื่อนและแฟนคลับ
แม้ในช่วงแรกคลาวเดียจะเลือกเก็บทุกอย่างไว้ในใจ แต่เมื่อเรื่องราวถูกเปิดเผย เธอก็ได้รับกำลังใจมากมายจากแฟน ๆ และคนใกล้ชิด โดยเฉพาะในวันที่ 23 พฤษภาคม 2568 ที่เธอโพสต์ภาพหน้าศาลเยาวชนและครอบครัวกลาง พร้อมทีมทนายความลงในอินสตาแกรม @claudia_chakrabandhu
เธอได้กล่าวขอบคุณทีมทนายและเพื่อนร่วมทีมที่อยู่เคียงข้างตลอด 5 เดือนที่ผ่านมา โดยเขียนว่า
“ขอบคุณทีมทนาย พี่เอ คุณเอก คุณเพิ่ม และน้องแฟร์นะคะ เราเพิ่งรู้จักกันได้ 5 เดือน แต่เดียได้เจอเพื่อนและกัลยาณมิตรใหม่ที่น่ารัก เห็นถึงความตั้งใจและน้ำใจที่มีให้เดียตลอด ซาบซึ้งมาก ๆ ค่ะ จากใจผู้หญิงตัวเล็ก ๆ คนนึงค่ะ TEAM WORK IS EVERYTHING”
ข้อความดังกล่าวสะท้อนให้เห็นถึงความเข้มแข็งของคลาวเดีย ที่แม้จะเจอปัญหาใหญ่ในชีวิต แต่ก็ยังรู้จักคุณค่าของมิตรภาพและการช่วยเหลือจากผู้อื่น
ผลกระทบต่อวงการบันเทิง
การเปิดใจของคลาวเดียไม่ได้เพียงทำให้หลายคนเห็นถึง ความเจ็บปวดส่วนตัว แต่ยังทำให้สังคมและวงการบันเทิงหันมาพูดถึงปัญหาสำคัญของชีวิตคู่ โดยเฉพาะเรื่อง ความซื่อสัตย์ ความรับผิดชอบ และการสื่อสาร
กรณีของคลาวเดียเป็นตัวอย่างที่ชัดเจนว่า ต่อให้เป็นคนดัง มีชื่อเสียง หรืออยู่ในวงการมายาวนาน ก็ไม่สามารถหลีกเลี่ยงความท้าทายของชีวิตคู่ได้ หากขาดความซื่อสัตย์และการแก้ไขปัญหาที่จริงใจ
คลาวเดียวันนี้: ผู้หญิงแกร่งที่ลุกขึ้นสู้
แม้จะผ่านความทุกข์ทรมานทางใจและร่างกายมาหนักหน่วง แต่ปัจจุบันคลาวเดียพิสูจน์ให้เห็นว่าเธอคือ ผู้หญิงที่เข้มแข็ง ที่พร้อมเผชิญหน้ากับความจริง และใช้ทุกวิถีทางตามกฎหมายเพื่อให้ได้ความยุติธรรม
เธอยืนยันว่า ไม่ได้ต้องการให้ใครเดือดร้อนเกินจำเป็น แต่สิ่งที่ต้องการคือการให้ทุกอย่างจบลงด้วย ความเข้าใจและความเป็นธรรม พร้อมทั้งย้ำว่าเธอไม่ใช่คนโหดร้าย หากอีกฝ่ายพร้อมที่จะพูดคุยกันอย่างตรงไปตรงมา ทุกอย่างอาจจะจบลงได้ง่ายกว่าที่คิด
สรุป
เรื่องราวการฟ้องหย่าและฟ้องชู้ของ คลาวเดีย จักรพันธุ์ เป็นอีกหนึ่งคดีที่สังคมให้ความสนใจอย่างกว้างขวาง เพราะไม่เพียงแต่สะท้อนถึงปัญหาชีวิตคู่ที่ซับซ้อน แต่ยังเผยให้เห็นด้านที่อ่อนแอและเข้มแข็งของผู้หญิงคนหนึ่งในเวลาเดียวกัน
แม้เธอจะเครียดจนร่างกายทรุดโทรม น้ำหนักลดเหลือเพียง 43 กิโลกรัม และต้องพึ่งยานอนหลับถึง 17 เม็ดต่อคืน แต่วันนี้คลาวเดียเลือกที่จะ ยืนหยัดเพื่อตัวเอง และเดินหน้าสู่เส้นทางใหม่ในชีวิต พร้อมกำลังใจจากเพื่อน แฟนคลับ และความเข้มแข็งจากภายใน
เรื่องนี้จึงไม่ใช่เพียงข่าวบันเทิง แต่เป็น แรงบันดาลใจให้กับผู้หญิงหลายคน ที่กำลังเผชิญปัญหาชีวิตคู่ ว่าท้ายที่สุดแล้ว “การรักตัวเองและเลือกสิ่งที่ดีที่สุดให้กับชีวิต” คือหนทางที่ควรทำที่สุด





















